สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ส.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น เมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 22,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มการเงิน โดยปัจจัยบวกเหล่านี้สามารถสกัดแรงลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายในภาคการก่อสร้างที่ร่วงลงในเดือนมิ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,963.92 จุด เพิ่มขึ้น 72.80 จุด หรือ +0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.05 จุด หรือ +0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,362.94 จุด เพิ่มขึ้น 14.81 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) ขานรับบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง บีพี พีแอลซี ที่สามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในไตรมาส 2 ปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงขยายตัวได้ดีในไตรมาส 2
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 380.26 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,251.29 จุด พุ่งขึ้น 133.04 จุด หรือ +1.10% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,127.03 จุด เพิ่มขึ้น 33.26 จุด หรือ +0.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,423.66 จุด เพิ่มขึ้น 51.66 จุด หรือ +0.70%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) ด้วยปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่อย่างบีพีและโรลส์-รอยซ์ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นบริษัททั้งสองทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของอังกฤษที่ขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 51.66 จุด หรือ +0.70% ปิดที่ 7,423.66 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้นในตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 51.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,279.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ขยับขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 16.764 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.94% ปิดที่ 949.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 893.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) จากแรงกดดันของข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากนี้
ปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3193 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.1810 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1825 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7977 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7990 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.23 เยน จากระดับ 110.37 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9652 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9663 ฟรังก์สวิส