5 ผู้เสียหายบี้“หยวนต้า”รับผิดชอบ เหตุพนง.หลอกโอนเงินเข้ากองทุนเถื่อน

5 ผู้เสียหายบี้ “หยวนต้า” รับผิดชอบ 300 ล้าน หลังโดนอดีตมาร์เก็ตติ้ง "เคเคเทรด" ทำเรื่องฉาว! สวมรอยปลอมเอกสารหลอกลูกค้าโอนเงินเข้ากองทุนเถื่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1 ส.ค.) มีลูกค้าจำนวน 5 คน ของ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาร้องเรียนยังหนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ถูกมาร์เก็ตติ้งของบริษัทหลอกให้โอนเงินเพื่อลงทุนในกองทุนเพื่อการลงทุนในหุ้น ซึ่งคล้ายๆ กับกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ แต่ต่อมาทราบว่า พนักงานผู้แนะนำการลงทุน หรือมาร์เก็ตติ้งคนดังกล่าวได้ถูกสั่งให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน และมารู้ความจริงในภายหลังว่า กองทุนที่ตนเองต่างใส่เงินลงไปนั้น ไม่ได้มีอยู่จริง

โดยนายกฤติเดช นิติชาตวิทย์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจของลูกค้าทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นางวาสนา ศรีวิตานนท์, นางสาวพูนศรี เอื้อเจริญศรี, นางสาวประไพศรี เกริกไกรเลิศ, นายอำนาจ วิริยะกุล และ นางเบญจลักษณ์ พินธุโสภณ กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าทั้งหมดได้ถูกพนักงานแนะนำการลงทุน (มาร์เก็ตติ้ง) ชักชวนให้ลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นมาตั้งแต่ปี 2555 หรือสมัยที่ยังเป็น บล.เคเคเทรด

อย่างไรก็ดี ได้มาทราบในภายหลังว่า พนักงานมาร์เก็ตติ้งคนดังกล่าวคือ น.ส.จัสมิน ดินแดง ได้ถูกบล.หยวนต้าฯ เลิกจ้าง และให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัท

ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มลูกค้าก็ได้มีการถามถึงเรื่องกองทุนที่ทั้งหมดได้ลงไปนั้นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า กองทุนดังกล่าวไม่ได้มีอยู่จริง และเอกสารที่กลุ่มลูกค้าได้มาโดยตลอดในระกว่างการลงทุนนั้น เป็น “เอกสารปลอม” ดังนั้น กลุ่มลูกค้าทั้งหมดจึงมีการเรียกร้องให้ทางบล.หยวนต้าฯ ชดใช้ค่าเสียหาย แต่ผ่านมามาถึงวันนี้เวลาได้ล่วงเลยมานานมาก และทางบริษัทยังไม่ได้มีการชี้แจงหรือแจ้งความชัดเจนใดๆ ออกมา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ บอกเพียงว่าให้รอเท่านั้น

ทั้งนี้ ทนายความคนดังกล่าวได้กล่าวอีกว่า กลุ่มลูกค้าที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดนั้นคิดเป็นเงินประมาณ 300 ล้านบาท และที่ผ่านมาทั้งหมดก็เชื่อโดยสุจริตใจว่า การโอนเงินผ่านระบบบัญชีของโบรกฯ จะมีความปลอดภัย และเอกสารที่ได้รับกลับมานั้น คือเอกสารที่แท้จริง

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสงสัยด้วยว่า เมื่อกลุ่มลูกค้ามีการโอนเงินผ่านระบบของโบรกฯ ไปแล้ว ทางพนักงานมาร์เก็ตติ้งมีการดึงเงินดังกล่าวออกไปได้อย่างไร ระบบของบริษัทมีปัญหาหรือไม่

นายกฤติเดช กล่าวด้วยว่า เรื่องดังกล่าวนี้ เป็นคดีอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) โดยเป็นการโอนคดี หลังจากลูกค้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวจัสมิน และบล.หยวนต้าฯ ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจ นครบาล หรือ สน.ลุมพินี แล้ว

สำหรับ น.ส.จัสมิน ได้ถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 20 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทลธ. 3/2555 เรื่องการให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน โดยก.ล.ต.ได้สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนนางสาวจัสมินเป็นเวลา 1 เดือนเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2557

ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทางบริษัทปล่อยให้บุคลากรใช้ทรัพยากรของบริษัทไปก่อให้เกิดความเสียหาย ขาดการกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อกับลูกค้า และระบบมาตรฐานที่ดี การกำกับควบคุมดูแลของสำนักงานหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ที่มีในปัจจุบัน ไม่สามารถป้องกันความเสียหายให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือรัดกุมเพียงพอ

Back to top button