ตลท.ขีดเส้นตาย POLAR แจงเหตุถอนคำร้องขอฟื้นฟูฯภายใน 4 วัน

ตลาดหลักทรัพย์สั่ง POLAR ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีการถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและเร่งให้ชี้แจงข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามให้ครบถ้วน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขอให้ บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด มหาชน หรือ POLAR ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีการถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและเร่งให้ชี้แจงข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามให้ครบถ้วน หลังจากที่วานนี้ (2 ส.ค.) POLAR ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 13/2560 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 7 ก.ค.60 มีมติให้บริษัทถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการออกจากศาลล้มละลายกลาง ซึ่งบริษัทได้ถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้วเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งถอนเมื่อวันที่ 12 ก.ค.60

ทั้งนี้เดิมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 บริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์กรณีการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการว่า บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัวคณะกรรมการได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน หากไม่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯบริษัทอาจประสบภาวะล้มละลาย ส่งผลกระทบต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นจนไม่อาจเยียวยาแก้ไขได้

เนื่องจากบริษัทแจ้งมติคณะกรรมการให้ถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผล และระยะเวลาที่ถอนคำร้องฯ ห่างจากการยื่นขอฟื้นฟูกิจการเพียง 2 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

1. เหตุใดคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้บริษัทถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ทั้งที่คณะกรรมการเคยให้ความเห็นว่าการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น

2. แนวทางดำเนินการกับมูลหนี้ที่บริษัทแจ้งว่าถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายรวม 3,620 ล้านบาท

3. เหตุใดบริษัทแจ้งการยื่นถอนคำร้องฯ ล่าช้า ทั้งที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ทันที ซึ่งกรณีดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์ได้เคยแจ้งให้บริษัทชี้แจงเหตุล่าช้ามาครั้งหนึ่งแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามดังนี้

1.กรณีการขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ ในประเด็นการมีหนี้สินล้นพ้นตัวภายในระยะเวลาอันสั้นที่มาของมูลหนี้ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกันและไม่สอดคล้องกับที่เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงความเห็นของคณะกรรมการในการพิจารณาหนี้ที่เกิดจากการเรียกร้องค่าเสียหายและค่าขาดประโยชน์เป็นภาระหนี้ทั้งจำนวนของบริษัทจนเป็นเหตุให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว

2.กรณีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจัดประชุมผู้ถือหุ้นตามพรบ.มหาชนในวันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ในประเด็นการหารือกับที่ปรึกษากฎหมายและหน่วยงานที่กำกับดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าการจัดประชุมดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมายและสรุปคะแนนเสียงในแต่ละวาระการประชุม

3.ความคืบหน้าในการรับคืนเงินมัดจำเพื่อจะซื้อที่ดินย่านพหลโยธิน 350 ล้านบาท และรายละเอียดการให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทไซมิส แอ็คคอม จำกัด 160 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า กรรมการและผู้บริหารของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศสำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และทันเวลารวมทั้งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

โดยข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามเป็นข้อเท็จจริงซึ่งอยู่ในวิสัยที่บริษัทสามารถชี้แจงได้ภายในเวลาที่กำหนดตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้บริษัทเร่งดำเนินการชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2560

 

Back to top button