สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ส.ค.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 22,000 จุดเป็นครั้งแรก เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทแอปเปิล อิงค์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่บ่งชี้ว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดีในเดือนก.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,016.24 จุด เพิ่มขึ้น 52.32 จุด หรือ +0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,362.65 จุด ลดลง 0.29 จุด หรือ -0.00% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด หรือ +0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) จากแรงกดดันของผลประกอบการที่น่าผิดหวังของริโอทินโต บริษัทเหมืองแร่ข้ามชาติรายใหญ่ และแรงเทขายในหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด หลังธนาคารยักษ์ใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยว่ายังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 12.23 จุด หรือ -0.16% ปิดที่ 7,411.43 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารโซซิเอเต้ เจเนอราล (ซอคเจน) ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส เปิดเผยกำไรสุทธิร่วงลงอย่างหนักในไตรมาส 2

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 378.63 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,181.48 จุด ลดลง 69.81 จุด หรือ -0.57% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,107.25 จุด ลดลง 19.78 จุด, -0.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,411.43 จุด ลดลง 12.23 จุด, -0.16%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงน้อยกว่าการคาดการณ์นั้น ได้สกัดแรงบวกในตลาดระหว่างวัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 52.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลปอนด์และยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) ขณะนักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐเพื่อหาปัจจัยบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดงบดุลบัญชีเมื่อใด และเฟดจะดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้หรือไม่ หลังข้อมูลเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยล่าสุดยังคงอ่อนแอและเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟด

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1868 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1810 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3239 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3218 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7976 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7977 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.56 เยน จากระดับ 110.23 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9695 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9652 ฟรังก์สวิส

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 22,000 จุดเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงลบในตลาด และช่วยให้สัญญาทองคำปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่  1,278.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.1 เซนต์ หรือ 0.18% ปิดที่ 16.733 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 953.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 892.20 ดอลลาร์/ออนซ์

Back to top button