ดอลล์อ่อนค่าหลังยอดขาดดุลการค้าสหรัฐพุ่ง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) เนื่องจากยอดขาดดุลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในเดือนมี.ค.บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงอ่อนแอ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) เนื่องจากยอดขาดดุลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในเดือนมี.ค.บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงอ่อนแอ
ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1195 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1140 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5177 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5118 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.87 เยน เทียบกับระดับ 120.10 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9262 ฟรังก์ จาก 0.9343 ฟรังก์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7942 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7846 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวย่ำแย่ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะ 5.14 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับ 3.59 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนมี.ค.นับว่ามากที่สุดสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ 4.20 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่มีความต่อเนื่อง และทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง