สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) โดยดาวโจนส์เดินหน้าทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 9 เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค หลังจากบริษัทไทสัน ฟู้ดส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และจากการที่นักลงทุนยังคงขานรับความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,118.42 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,480.91 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,383.77 จุด เพิ่มขึ้น 32.21 จุด หรือ +0.51%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) หลังจากกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงในเดือนมิ.ย. ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง PostNL

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 382.01 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,257.17 จุด ลดลง 40.55 จุด หรือ -0.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,531.94 จุด เพิ่มขึ้น 20.23 จุด หรือ +0.27% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,207.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.45 จุด หรือ +0.09%

 

ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 20.23 จุด หรือ +0.27% ปิดที่ 7,531.94 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะปฏิบัติตามข้อตกลงในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตอย่างจริงจังหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ได้จัดการประชุมเป็นเวลา 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 49.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 52.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้น เมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐได้กระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,264.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 16.251 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 971.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 10.40 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 885.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) โดยดอลลาร์ยังคงได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะพิจารณาเริ่มปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดในเดือนก.ย.นี้

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1790 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1763 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3028 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3036 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7911 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7928 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.74 เยน จากระดับ 110.68 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9736 ฟรังก์สวิสจากระดับ 0.9734 ฟรังก์สวิส