สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ส.ค.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงก่อนหน้านี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,993.71 จุด พุ่งขึ้น 135.39 จุด หรือ +0.62% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,340.23 จุด เพิ่มขึ้น 83.68 จุด หรือ +1.34% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,465.84 จุด เพิ่มขึ้น 24.52 จุด หรือ +1.00%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.08% ปิดที่ 376.16 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,165.12 จุด เพิ่มขึ้น 151.06 จุด หรือ +1.26% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,121.67 จุด เพิ่มขึ้น 60.75 จุด หรือ +1.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,353.89 จุด เพิ่มขึ้น 43.93 จุด หรือ +0.60%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้น จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) จากการที่นักลงทุนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 43.93 จุด หรือ +0.60% ปิดที่ 7,353.89 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลง เมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มสัญญาณคลี่คลายลง ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,290.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.  เพิ่มขึ้น 5.2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 17.122 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.  ร่วงลง 14.8 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 974.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.45 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 898.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข้อมูลที่บ่งชี้ว่า จีนชะลอกำลังการกลั่นน้ำมัน ส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้น้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2.52% ปิดที่ 47.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.63% ปิดที่ 50.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) สืบเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1778 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1828 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2964 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3022 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7853 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7902 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.22 เยน จากระดับ 108.97 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9723 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9612 ฟรังก์สวิส

Back to top button