ดาวโจนส์ปิดวานนี้ลบ 86 จุด หลังเฟดกังวลราคาหุ้นพุ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ว่า ราคาหุ้นในตลาดที่พุ่งสูงในขณะนี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ว่า ราคาหุ้นในตลาดที่พุ่งสูงในขณะนี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,841.98 จุด ลดลง 86.22 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,919.64 จุด ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.40% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.15 จุด ลดลง 9.31 จุด หรือ -0.45%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากประธานเฟดกล่าวในที่ประชุม “Finance and Society” ซึ่งจัดขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ว่า ราคาหุ้นในตลาดที่พุ่งสูงในขณะนี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ พร้อมกับกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจดีดตัวขึ้นทันทีที่เฟดปรับนโยบายกลับสู่ภาวะปกตินั้น จะทำให้เกิดผลกระทบทั่วระบบการเงินของสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 169,000 รายในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ราย
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.9% ขณะที่หุ้นอินเทล คอร์ป ร่วงลง 1.3% ส่วนหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นไฟเซอร์ดิ่งลง 1.9% และหุ้นอเล็กเซียน ฟาร์มาซูติคอล ร่วงลง 8%
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนมี.ค. ส่วนวันศุกร์ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. และสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนมี.ค.