ดอลล์ปรับลง หลังเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่มน้อยกว่าคาด

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ซึ่งทำให้มีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ซึ่งทำให้มีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1356 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1195 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5248 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5177 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.35 เยน เทียบกับระดับ 119.87 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9148 ฟรังก์ จาก 0.9262 ฟรังก์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7942 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันจากข้อมูลจ้างงานที่อ่อนแอ หลังผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 169,000 รายในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ราย ขณะเดียวกัน ADP ยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนมี.ค.สู่ระดับ 175,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 189,000 ราย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการแสดงความคิดเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่กล่าวเน้นย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำอาจก่อความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน อย่างไรก็ตาม นางเยลเยนไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วในเดือนมิ.ย.อาจจะช่วยหนุนดอลลาร์ให้แข็งแกร่ง ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ล่าช้าออกไปอาจเป็นปัจจัยลบต่อดอลลาร์

Back to top button