จับตา! “ผู้สอบ” เตรียมบี้ GL ตั้งด้อยค่าฯศรีลังกาไตรมาส 3 เหตุขาดทุนบักโกรก
จับตา! "ผู้สอบบัญชี" เตรียมบี้ GL ตั้งด้อยค่าเงินลงทุน "CCF" ในศรีลังกาไตรมาส 3 เหตุขาดทุนบักโกรก หลังมูลค่าตามตลาดเหลือ 909 ลบ.
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 กรณีบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ได้เข้าทำการซื้อหุ้นบริษัท Commercial Credit and Finance PLC หรือ CCF ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศศรีลังกา ทั้งหมดร้อยละ 29.99 ของหุ้นทั้งหมด ผ่านบริษัทย่อยในราคาซื้อ 2.46 พันล้านบาท โดยบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมดราว 95.37 ล้านหุ้น ที่ราคาประมาณ 25.81 บาทต่อหุ้น แต่เมื่ออ้างอิงจากราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ประเทศศรีลังกา ณ วันสิ้นไตรมาส 2/60 คือ 30 มิ.ย.2560 มูลค่าหุ้นดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 909 ล้านบาท
ล่าสุด นายโสภณ เพิ่มศิริวัลลภ ผู้สอบบัญชีสังกัดบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวโดยระบุในรายงานการสอบทาน และงบการเงินระหว่างกาล สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ของผู้สอบบัญชี ในข้อ 2 ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเงินลงทุนในบริษัทร่วมในประเทศศรีลังกา ว่า
ในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมเกี่ยวกับเงินลงทุนในบริษัทร่วมในประเทศศรีลังกาที่บริษัทย่อยของ GL ได้เข้าทำการซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศศรีลังกาแห่งหนึ่งในจำนวนร้อยละ 29.99 ของหุ้นทั้งหมด ในราคาซื้อ 2,462 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นดังกล่าวได้ถูกตีราคาโดยผู้ประเมินราคาภายนอกของบริษัทย่อยว่ามีมูลค่าประมาณ 1.90 – 2.50 พันล้านบาท ในขณะที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ตีราคาว่ามีมูลค่าประมาณ 1.60 – 1.70 พันล้านบาท โดยราคาตลาดของหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศศรีลังกาในช่วงระยะเวลาซื้อในช่วงปลายปี 2559 มีมูลค่าประมาณ 1.39 พันล้านบาท
ขณะที่ ล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 หุ้นดังกล่าวแสดงไว้เป็นเงินลงทุนในบริษัทร่วมในงบการเงินรวมด้วยวิธีส่วนได้เสียด้วยจำนวนเงิน 2.58 พันล้านบาท (31 ธันวาคม 2559: 2.55 พันล้านบาท) มูลค่าตลาดในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศศรีลังกา ในวันสิ้นงวดปัจจุบัน มีประมาณ 909 ล้านบาท (ณ วันสิ้นปี 2559: 1.29 พันล้านบาท)
ทั้งนี้ผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีประมาณ 2.58 พันล้านบาทและมูลค่าตลาดในตลาดหลักทรัพย์ประเทศศรีลังกาประมาณ 909 ล้านบาท มีจำนวนผลต่างที่เป็นสาระสำคัญและต้องได้รับการให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก มูลค่าตลาดของบริษัทร่วมในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศศรีลังกาลดลงในช่วงระยะเวลาที่ซื้อในช่วงปลายปี 2559 จากประมาณ 1.3 พันล้านบาท เป็น 0.9 พันล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2560 อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจมีการด้อยค่าของเงินลงทุน
“บริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ที่ระบุได้ที่ได้มาและหนี้สินที่รับมา ณ วันซื้อกิจการเฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯได้ว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้เป็นผู้ประเมินมูลค่ายุติธรรมดังกล่าว กระบวนการวัดมูลค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตน และสินทรัพย์ที่มีตัวตนบางรายการยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งบริษัทฯคาดว่าการประเมินมูลค่ายุติธรรมจะแล้วเสร็จในไตรมาสสามของปี 2560” นายโสภณ ระบุในรายงานการสอบทานฯฉบับดังกล่าว