RS บวกเกือบ 5% โบรกฯแนะซื้อ ชูเป้า 17.30 บ.
RS บวกเกือบ 5% โบรกฯแนะซื้อ ให้เป้า 17.30 บ. ปิดตลาดภาคเช้า ราคาอยู่ที่ 13.10 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.80% สูงสุดที่ 13.10 บาท ต่ำสุดที่ 12.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 54.93 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ปิดตลาดภาคเช้า ราคาอยู่ที่ 13.10 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.80% สูงสุดที่ 13.10 บาท ต่ำสุดที่ 12.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 54.93 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.15%
ด้าน บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 17.30 บาท/หุ้น จากธุรกิจดิจิตอลทีวีที่ดีขึ้นจากเรตติ้งรายการกีฬาและข่าวที่มีเรตติ้งสูงทำให้สามารถปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นได้และธุรกิจ H&B ที่เติบโตเร็วกว่าที่คาดจากการปรับกลยุทธ์ โดยได้รวม dilution effect จาก RS-W3 แล้วด้วยการเฉลี่ยการใช้สิทธิ 3 ปี
สำหรับราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER18F อยู่ที่ 38.6X เทียบเท่า PEG18F อยู่ที่เพียง 0.5x (EPS growth18F ที่ 72%) โอกาส: 1) รายได้ธุรกิจ Health & Beauty ดีกว่าคาด ความเสี่ยง: 1) เศรษฐกิจที่ยังซบเซาส่งผลต่อการใช้จ่ายโฆษณา 2) อัตราค่าโฆษณาและอัตราการเช่าเวลาไม่ได้ตามคาดหมาย
โดย RS ประกาศกำไรปกติไตรมาส 2/60 ที่ 52 ล้านบาท พลิกจากไตรมาส 2/59 ที่ขาดทุน 85 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 ที่กำไรปกติ 11 ล้านบาท +373% จากไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากธุรกิจ H&B ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการปรับกลยุทธ์การขายใหม่เน้นขายผ่านเทเลเซล (call center) และใช้สื่อทีวีของช่องตนเองที่มีอยู่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามกำไรปกติต่อกว่าที่เราและตลาดคาด 17% และ 11% ตามลำดับ จากรายได้กลุ่มธุรกิจมีเดียลดลง -12%YoY จากทีวีแซทเทลไลท์และวิทยุลดลงเป็นหลักแต่ ดิจิตอลทีวีช่อง 8 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 36% จากปลายปีที่ผ่าน มาอยู่ที่ 30,000 บาท/นาที จากรายการที่มีเรตติ้งสูง ได้แก่ รายการข่าวและรายการกีฬามวย
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 37% จาก 20% จากปีก่อน และ 32% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากสัดส่วนรายได้ H&B ที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 27% ลดลงจาก 34% จากปีก่อน และ 29% จากปีก่อน จากการลดค่าใช้จ่ายการทำการตลาดธุรกิจ H&B หลังจากสินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 6% จาก -12% จากปีก่อน
ทั้งนี้กำไรสุทธิครึ่งปีแรก คิดเป็น 36% ของกำไรทั้งปีของเรา โดยคาด ครึ่งปีหลังจะมากกว่าครึ่งปีแรก จากรายได้ธุรกิจ H&B เพิ่มขึ้นเป็นหลักคาดรายได้ปีนี้อยู่ที่ราว 1,200 ล้านบาท จากปี 2016 อยู่ที่ 228 ล้านบาท โดยยอดขายปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยประมาณเดือนละ 120 ล้านบาท และคาดปี 2561-2562 เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 30% จากการใช้กลยุทธ์การขายใหม่และวางเป้าหมายการเพิ่มจำนวนสินค้า SKU เพิ่มขึ้นรวมถึงจำนวนพาร์ทเนอร์ที่เพิ่มขึ้น ในส่วนรายได้ทีวีช่อง 8
นอกจากนี้ยังคาดว่า U.rate ปี คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 55% จากช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพพระบรมศพ รัชกาลที่ 9 ในช่วง ต.ค.17 คาดงดการโฆษณา 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม รายได้ธุรกิจมีเดียยังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นได้ราว 10% จากการปรับการขึ้นค่าโฆษณาขึ้นเฉลี่ย 36% ในปีนี้ จากเรตติ้งรายการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะข่าวและกีฬาช่วยชดเชยกับรายได้ธุรกิจทีวีแซทเทลไลท์ที่คาดลดลงราว 25% จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้โฆษณาผ่านดิจิตอลทีวีเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันอัตรา Gross margin เฉลี่ยในปี 2017-19F คาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 38%, 43% และ 47% ตามลำดับ จากสัดส่วนรายได้ธุรกิจ H&B ที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดผลประกอบการปี60 มี Net margin ที่ 6%, 9% และ 13% ตามลำดับ