PACE แจงเหตุผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงิน กรณีประมาณการรายได้จุดชมวิว
PACE แจงผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงิน กรณีประมาณการรายได้จุดชมวิว ชี้ที่ปรึกษาทางการเงินตีมูลค่าจุดชมวิว 7.32 พันลบ.เหมาะสม การันตีรับนักท่องเที่ยว 3 ล้านคนต่อปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ได้ออกมาชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันนี้ (16 ส.ค.) เวลา 13.25 น. ถึงกรณีที่บริษัท ได้นำส่งงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ผู้สอบบัญชี บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม และการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จากการถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์เรื่องการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว
โดยบริษัทชี้แจงว่า บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งหนึ่ง เพื่อทำการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัทเพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบันตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรมจำนวนเงิน 7,321 ล้านบาท และกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 7,321 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 7,946.6 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ ผู้สอบบัญชี ไม่สามารถให้ข้อสรุปการสอบทานรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวเกี่ยวกับการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว จากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่มีการประกอบพาณิชยกิจจริงเพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทยจึงไม่สามารถให้ข้อสรุปผลการสอบทานต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560
ขณะที่เกณฑ์ในการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม จากประเด็นในเกณฑ์ข้อแรก ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม ส่งผลให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถสรุปได้ว่า อาจมีรายการผลปรับปรุงใดๆที่อาจมีขึ้นต่องบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิ.ย.60 จึงแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม
ทั้งนี้ จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระโดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน และจากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงส่งผลให้ผู้สอบบัญชีถูกจำกัดโดยสถานการณ์จึงไม่สามารถพิสูจน์รายได้ในอนาคตหรือข้อมูลเปรียบเทียบสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงในประเทศไทยได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบสมมุติฐาน เช่น เปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมจุดชมวิว กับตึกชมวิวตามประเทศต่างๆ 9 แห่งทั่วโลก รวมถึงเทียบกับตึกใบหยกที่สูงเป็นอันดับ 2 ในไทยที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าชมตึกเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี และเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก อีกทั้งจุดชมวิวในโครงการมหานครได้มีการออกแบบให้มีลิฟท์ที่มีความจุและเร็วที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ซึ่งทำให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมจุดชมวิวได้มากกว่า 3 ล้านคนต่อปี ซึ่งหากสินทรัพย์มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการได้บริษัทฯจะมีรายได้ตามสมมุติฐานดังกล่าว