สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ส.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นมายืนเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 22,000 จุดได้อีกครั้ง หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้เสนอให้คณะกรรมการเฟดรอคอยให้เงินเฟ้อส่งสัญญาณดีขึ้น ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐได้สกัดแรงบวกในตลาด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 ชุด สืบเนื่องมาจากความเห็นที่ขัดแย้งเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,024.87 จุด เพิ่มขึ้น 25.88 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,468.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.50 จุด หรือ +0.14% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,345.11 จุด ลดลง 12.10 จุด หรือ +0.19%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร หลังจากมีรายงานว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่ส่งสัญญาณการใช้นโยบายใหม่ในการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์หน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 379.09 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,263.86 จุด เพิ่มขึ้น 86.82 จุด หรือ +0.71% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,176.61 จุด เพิ่มขึ้น 36.36 จุด หรือ +0.71% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,433.03 จุด เพิ่มขึ้น 49.18 จุด หรือ +0.67%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก ติดต่อกันสามวันทำการเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ด้วยแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นำโดยหุ้นเกลนคอร์และบีเอชพี บิลลิตัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลตลาดแรงงานของอังกฤษที่ดีเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 49.18 จุด หรือ +0.67% ปิดที่ 7,433.03 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลง เมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐ แม้รายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 77 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 46.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 50.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (16 ส.ค) เนื่องจากความผันผวนทางการเมืองในสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 ชุด สืบเนื่องมาจากความเห็นที่ขัดแย้งเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,282.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 22.6 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 16.94 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 974.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 18.15 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 910.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้เสนอให้คณะกรรมการเฟดรอคอยให้เงินเฟ้อส่งสัญญาณดีขึ้น ก่อนที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1775 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1732 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2885 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2865 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7917 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7816 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.12 เยน จากระดับ 110.51 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9661 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9730 ฟรังก์สวิส