สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ส.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนภายในทำเนียบขาวของสหรัฐ ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 คณะ นอกจากนี้ดัชนีดาวโจนส์ยังถูกฉุดรั้งจากแรงเทขายในหุ้นไนกี้ อิงค์ หลังฟุต ล็อกเกอร์ บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำเปิดเผยผลกำไรและยอดขายที่ต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,674.51 จุด ลดลง 76.22 จุด หรือ -0.35% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,216.53 จุด ลดลง 5.39 จุด หรือ -0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,425.55 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.18%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มสายการบินยุโรปที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า สืบเนื่องจากความวิตกกังวลในเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ประเทศสเปน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -2.67 จุด หรือ -0.71% ปิดที่ 374.20 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,114.15 จุด ลดลง 32.70 จุด หรือ -0.64% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,165.19 จุด ลดลง 38.27 จุด หรือ -0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,323.98 จุด ลดลง 63.89 จุด หรือ -0.86%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) ด้วยแรงฉุดรั้งจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ปรับตัวลงกันถ้วนหนั สืบเนื่องจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในเมืองบาร์เซโลนาของสเปน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 63.89 จุด หรือ -0.86% ปิดที่ 7,323.98 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) หลังมีรายงานว่าสหรัฐได้ปิดหน่วยกลั่นน้ำมันย่อยแห่งหนึ่งของโรงกลั่นน้ำมันที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของเบเกอร์ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในของสหรัฐ ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 48.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 52.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลง 0.06% เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในเมืองบาร์เซโลนาและแคมบริลส์ในแคว้นกาตาลุญญาของสเปนเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ระดับ 1291.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.3 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 17 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 982.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 0.1%% ปิดที่ 927.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) จากแรงกดดันของกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนภายในคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ภายหลังจากทรัมป์ได้ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 คณะ ซึ่งประกอบด้วยคณะที่ปรึกษาการอุตสาหกรรมและสภายุทธศาสตร์และนโยบาย สืบเนื่องจากผู้นำภาคธุรกิจหลายคนได้ทยอยลาออกจากการเป็นสมาชิกเพื่อแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับจุดยืนของทรัมป์ที่มีต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1758 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1744 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2874 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2879 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7937 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7907 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.30 เยน จากระดับ 109.69 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9654 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9618 ฟรังก์สวิส