สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ส.ค.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ และความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายบางเบา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.นี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,703.75 จุด เพิ่มขึ้น 29.24 จุด หรือ +0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,428.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,213.13 จุด ลดลง 3.40 จุด หรือ -0.05%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลง เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากสหรัฐและเกาหลีใต้ประกาศร่วมซ้อมรบเป็นเวลา 10 วัน โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขณะที่เกาหลีเหนือได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 372.72 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,087.59 จุด ลดลง 26.56 จุด หรือ -0.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,065.99 จุด ลดลง 99.20 จุด หรือ -0.82% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,318.88 จุด ลดลง 5.10 จุด หรือ -0.07%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) จากแรงกดดันทางปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังสหรัฐและเกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบประจำปีร่วมกัน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือทวีความตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 5.10 จุด หรือ -0.07% ปิดที่ 7,318.88 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้น 3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 47.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 51.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น แตะระดับสุงสุดในรอบเกือบ 11 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง ภายหลังจากสหรัฐและเกาหลีใต้ประกาศร่วมซ้อมรบเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเกาหลีเหนือ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 1,296.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 17.015 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 985.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 11.9 ดอลลาร์  หรือ 1.3% ปิดที่ 939 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ก่อนหน้าการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ “Fostering a Dynamic Global Economy”

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1816 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1758 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2899 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2874 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7938 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7937 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.75 เยน จากระดับ 109.30 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9617 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9654 ฟรังก์สวิส

Back to top button