VGI เผยเลิกสัญญาโมเดิร์นเทรดกระทบกำไรปี 58/59 เพียงเล็กน้อย
VGI เผยเลิกสัญญาโมเดิร์นเทรดกระทบกำไรปี 58/59 เพียงเล็กน้อย
นายมารุต อรรถไกวัลวที กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า การยกเลิกสัญญาการรับสิทธิในการบริหารและจัดการพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรด จะกระทบกำไรในงวดปี 58/59 (เม.ย.58-มี.ค.59) เพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะกระทบกับรายได้อย่างมีนัยสำคัญก็ตาม เนื่องจากการบริหารจัดการพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรดมีอัตราทำกำไรต่ำ ขณะที่บริษัทยังมองหาโอกาสในการรุกไปสู่ธุรกิจใหม่เพื่อขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาต่อเนื่อง
นายมารุต กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงแสวงหาโอกาสในการรุกธุรกิจใหม่เพื่อขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าจะมีโครงการใหม่เข้ามาหนุนรายได้และกำไรในไม่ช้านี้ โดยสัญญาการบริหารพื้นที่โฆษณาในเทสโก้ โลตัส ทยอยหมดลงในช่วงเดือนธ.ค.57 ถึงก.พ.58 และล่าสุดได้ยกเลิกสัญญากับบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC) ขณะที่ในส่วนของธุรกิจสื่อโฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานแล้วพบว่ายังมีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน ของ VGI กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 57/58 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 2,963 ล้านบาท ลดลง 5.9% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 838 ล้านบาท ลดลง 26.9% จากปีก่อน โดยปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวลง ส่งผลต่อเม็ดเงินอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมของปี 58 ลดลงเกือบ 10% แต่ในส่วนของรายได้ของบริษัทจากสื่อโฆษณาและพื้นที่ร้านค้าบนบีทีเอส รวมถึงสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและสื่ออื่นๆ ยังคงเติบโตโดดเด่นถึง 7.5% และ 7.8% จากปีก่อน สวนทางกับการหดตัวของทุกๆ สื่อโฆษณาในตลาด
เนื่องจากบริษัทได้พัฒนาพื้นที่สื่อดิจิตอลใหม่ๆ เพื่อรองรับการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเจ้าของสินค้าและเอเยนซี่โฆษณายังพร้อมใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในส่วนนี้เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน การเข้าไปบริหารสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จาก 75 ตึกเป็น 103 ตึก ทำให้สามารถสร้างโอกาสทั้งรายได้และกำไรจากสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีรายได้รวมของบริษัท ลดลง 5.9% เนื่องจากธุรกิจสื่อในห้างโมเดิร์นเทรดลดลงกว่า 25% หลังหมดสัญญาบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาในห้างเทสโก้ โลตัส อีกทั้งบริษัทยังพบสื่อโฆษณาที่ไม่ใช่ของบริษัทเป็นจำนวนมากขายแข่งในพื้นที่ที่ได้รับสัญญาจากบิ๊กซี ทำให้ตัดสินใจบอกเลิกสัญญากับห้างบิ๊กซีที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทบันทึกประมาณการค่าเสียหายขั้นต้นที่อาจเกิดจากการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดกับ BIGC จำนวน 215 ล้านบาท ก่อนหักภาษี ในงบไตรมาส 4 ของปี 57/58 จึงส่งผลต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปีที่ผ่านมา