“Macquarie Bank” ดอดเก็บ PP หุ้น VTE 50 ล้านหุ้น
VTE ขายหุ้น PP ให้ Macquarie Bank จำนวน 50 ล้านหุ้น พร้อมขายหุ้น RO จำนวน 141.60 ล้านหุ้น ในอัตรา 25 หุ้นเดิมต่อ 4 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 2 บ. จองซื้อ 27-29 ก.ย., 2-3 ต.ค.60 ระดมทุนคืนหนี้-ลงทุนโรงไฟฟ้า
บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) พิจารณาอนุมัติออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ไม่เกิน 50 ล้านหุ้น ให้แก่ Macquarie Bank Limited ซึ่งจะมีการกำหนดรายละเอียดการออกและเสนอขาย รวมถึงการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนต่อไป
นอกจากนี้ยังจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 141.60 ล้านหุ้น ในอัตรา 25 หุ้นเดิม ต่อ 4 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 2 บาท กำหนดการจองซื้อระหว่างวันที่ 27-29 ก.ย. และวันที่ 2-3 ต.ค.60 โดยคาดว่าจะได้เงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ไม่เกิน 283.22 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2560 ที่มีมติให้เพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 249.17 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Right Offering) และจำนวน 83.06 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาทให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ซึ่งบริษัทได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนมาแล้ว 1 ครั้ง โดยเป็นการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวขายแก่ RO มีหุ้นขายได้ 54.45 ล้านหุ้น และยังคงมีหุ้นคงเหลือจากการขาย RO อีกจำนวน 194.73 ล้านหุ้น
สำหรับการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ Macquarie Bank Limited ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี 2512 มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการเข้าจองซื้อหุ้น และมีฐานะทางการเงินมั่นคง
โดย Macquarie Bank จะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบ PP ในครั้งเดียว หรือหลายครั้งก็ได้จนครบจำนวน ในราคาที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ย้อนหลัง 7 วันทำการ ติดต่อกัน ซึ่งปัจจุบัน VTE มีราคา 2.14 บาท ต่อหุ้น ณ วันที่ 23 ส.ค.60
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับเงินเพิ่มทุนเป็นจำนวนมาก และจะนำเงินที่ได้ทั้งหมดมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการดำเนินงานในปัจจุบัน นำไปชำระคืนหนี้เดิมต่างๆ ที่บริษัทใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา เพื่อลดภาระหนี้สิน
รวมทั้งเพื่อรองรับการขยายธุรกิจการรับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุน จำนวน 2 โครงการ คือ 1.โครงการ Minbu เป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 220 เมกะวัตต์ ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมา
2.โครงการ Biliran เป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 25 เมกะวัตต์ ที่เมืองบิริรัน ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทจะสามารถสร้างรายได้ และผลตอบแทนได้เป็นอย่างสูง