จับตาคำตัดสินศาลฯ คดีจำนำข้าว ชี้ชะตา “ยิ่งลักษณ์” วันนี้!
จับตาคำตัดสินศาลฯ คดีจำนำข้าว ชี้ชะตา “ยิ่งลักษณ์” วันนี้! ฟาก ตลท.เชื่อไม่มีผลกระทบ มั่นใจตลาดหุ้นรับมือได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (25 ส.ค.60) เป็นวัดนัดฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย
โดยคดีจำนำข้าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
สำหรับข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้นระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 นั้นระวางโทษจำคุกเช่นเดียวกัน แต่ระวางโทษปรับที่สูงกว่า คือ 20,000 – 200,000 บาท
โดยการระวางโทษปรับดังกล่าว เป็นคนละส่วนกันกับมูลค่าความเสียหายทางแพ่ง ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งได้สรุปตัวเลขที่เกิดขึ้นคิดเป็น 20% ของความเสียหายทั้งหมดของโครงการ หรือคิดเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง ออกคำสั่งการบังคับคดีที่เป็นคำสั่งทางปกครองต่างหาก
ด้าน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ในวันตัดสินคดีจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดี ในวันนี้ (25 ส.ค.) ไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้วหลายครั้ง ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือว่ามีความยืดหยุ่นสูงสามารถรับมือกับภาวะต่างๆ ได้ ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนี้เชื่อว่าทุกคนรับทราบประเด็นนี้แล้ว และน่าจะเตรียมตัวมาพอสมควรแล้ว
ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติเข้าใจในสถานการณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การจะพิพากษาคดีในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่นอกเหนือจากคาดการณ์ของผู้ลงทุน ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการเตรียมพร้อมของระบบเพื่อรองรับต่อเหตุการณ์ดังกล่าวหากมีความเคลื่อนไหวในตลาดทุนที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามสำหรับตลาดหุ้นไทยคือกรณีคำตัดสินคดีจำนำข้าว 25 ส.ค.60 จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกับคดียุบพรรคการเมืองรวมถึงคดีการเมืองอื่นๆ ในอดีต ยกตัวอย่างเช่น คดียุบพรรคพลังประชาชน เมื่อ 2 ธ.ค.2551 หุ้นไทยกลับตัวขึ้นจาก 387 จุด เป็น 392 จุด ในวันถัดมา และบวกต่อ 23% เทียบกับเดือนก่อน หลังคำตัดสิน 1 เดือน
ขณะที่ บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า SET อาจผันผวนในระหว่างการอ่านคำตัดสินศาลฯกรณีจำนำข้าวเช้านี้ อย่างไรก็ดีเรายังมองผลของคำตัดสิน เป็น Neutral ต่อตลาด เนื่องจากคาดว่าเมื่อคำตัดสินออกมาจะมีการยื่นอุธรณ์อยู่ดี และเสถียรภาพทางการเมืองหลังคำตัดสินฯ ไม่ได้เปลี่ยนไป