ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก “สรยุทธ” พร้อมพวก 13 ปี 4 เดือน คดีไร่ส้ม ยักยอกเงิน อสมท.138 ลบ.

ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก "สรยุทธ" พร้อมพวก 13 ปี 4 เดือน คดีไร่ส้ม ยักยอกเงิน อสมท.138 ลบ. ฟาก บจก.ไร่ส้มถูกสั่งปรับรวม 80,000 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีไร่ส้ม โดยยืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวชื่อดังและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด คดีหมายเลขดำที่ อ.313/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT และ บริษัทไร่ส้ม จำกัด

โดยนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด เป็นจำเลยที่ 1 ,บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นจำเลยที่ 2  ,นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นจำเลยที่ 3 และ น.ส.มณฑา ธีระเดช เป็นจำเลยที่ 4

ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนแล้วพิพากษายืน จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 3และ 4 คนละ 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 8 หมื่นบาท

ทั้งนี้ น.ส.อังคนา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ บจก.ไร่ส้ม พร้อมทั้งนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อายุ 51 ปี อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดังและกก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม และ น.ส.มณฑา ธีระเดช อายุ 45 ปี พนักงาน บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลย 1-4 ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ม.6,8,11

โดยภายหลัง นายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความของนายสรยุทธ เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินยืนโทษจำคุกและโทษปรับตามศาลชั้นต้นสำหรับจำเลยทั้ง 4 คนว่า เตรียมจะยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดและบัญชีเงินฝากขอประกันตัวระหว่างฎีกา ซึ่งเดิมชั้นต้น ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดไว้ซึ่งศาลตีประกันชั้นต้น คนละ 2 ล้านบาท ซึ่งวันนี้ต้องรอดูว่าศาลจะพิจารณาตีหลักทรัพย์อย่างไร และสำหรับการยื่นฏีกาคดีนี้สามารถยื่นได้ตาทขั้นตอนของกฏหมายเดิมทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย

 

อนึ่ง คดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 30 ม.ค.58 บรรยายพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.48- 28 เม.ย.49 ต่อเนื่องกัน นางพิชชาภา พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 ได้จัดทำคิวโฆษณารวม ในรายการ “คุย คุ้ยข่าว” ซึ่งก่อนออกอากาศนางพิชชาภา ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลา จาก บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 1 จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียกรับเอาเงิน 658,996 บาท จากจำเลยที่ 2-4 เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภาไม่รายงานการโฆษณา

ซึ่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท โดยมีจำเลยที่ 2-4 เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ ให้ความสะดวกในการกระทำผิด และมอบเช็ค ธ.ธนชาติ สาขาพระราม 4 สั่งจ่ายเงินให้นางพิชชาภา เหตุเกิดที่แขวง-เขตห้วยขวาง กทม.

 

 

Back to top button