CHO มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 10% เตรียมบุกขายรถ Catering ในสหรัฐฯปี 61

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.08 พันล้านบาท โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ปัจจุบันบริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 2.68 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ 1.05 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากศูนย์บริการซ่อมรถบรรทุก “สิบล้อ 24 ชั่วโมง” กว่า 100 ล้านบาทในปีนี้ เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ เพียง 90 ล้านบาท และบริษัทยังคงแผนการขยายศูนย์บริการดังกล่าวให้ครบ 8 แห่งภายใน 3 ปี (ปี 61-63) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัท รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ส่วนความคืบหน้าโครงการให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จำนวน 2,600 คัน ระยะสัมปทานรวม 5 ปี กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัทจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้เฉลี่ยต่อปีตั้งแต่ปี 61-65 ประมาณ 330 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ ในระยะแรกจะดำเนินการติดตั้งระบบดังกล่าวบนรถประจำทาง ขสมก.ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศ เพื่อรองรับการใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยที่รัฐบาลจะเริ่มต้นโครงการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ 3-4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท อาทิ รถเทรลเลอร์สำหรับใช้ในโครงการรถไฟฟ้ารางเบา และอื่น ๆ อีก โดยบริษัทคาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 50%

นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างเข้าไปศึกษาแนวทางการขายรถลำเลียงอาหารสำหรับสายการบิน (Catering) ไปยังประเทศสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะเริ่มเข้าไปเริ่มการขายได้ในปี 61 ซึ่งหากบริษัทสามารถขายสินค้าเข้าไปได้จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30-35% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20%

ส่วนเรื่องจะเข้าประมูลรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน นั้นบริษัทอยู่ระหว่างรอดูการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ให้มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนก่อน บริษัทก็จะเข้าร่วมประมูล แต่หากไม่คุ้มค่าต่อการเข้าลงทุนก็จะไม่ร่วมประมูล โดยคาดว่า TOR ฉบับใหม่จะออกมาในเดือน ต.ค.นี้

นายสุรเดช ยังเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะใช้ผลกำไรจากการดำเนินงานไปล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมดราว 50 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมดภายในปีนี้