ETE มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% พร้อมแตกไลน์ธุรกิจรับสร้างสนามยิงปืน
ETE มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% หลังงานเอ๊าท์ซอร์สจ่อต่อสัญญาใน Q4/60 ตุน Backlog 4.2 พันลบ. รับรู้รายได้ปีนี้ราว 1.56 พันลบ. พร้อมแตกไลน์ธุรกิจรับสร้างสนามยิงปืน
นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ETE เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มสายงานด้านวิศวกรรมก่อสร้างเข้ามารับงานสร้างสนามซ้อมยิงปืนที่ใช้เทคโนโลยีสูงจากประเทศสหรัฐ โดยเริ่มรับงานของหน่วยงานตำรวจเป็นโครงการแรกมูลค่าราว 75 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการรับงานโครงการอื่นๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน
ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าโอกาสของงานสร้างสนามซ้อมยิงปืนในประเทศยังมีอีกมาก เพราะปัจจุบันหน่วยงานทหารและตำรวจมีสนามซ้อมยิงปืน จำนวนมาก แต่สนามที่มีอยู่ยังมีปัญหาด้านมาตรฐานความปลอดภัย ทำให้ประสิทธิภาพการฝึกซ้อมไม่เต็มที่ และอาจมีอันตรายต่อผู้ฝึกซ้อม
ขณะที่เทคโนโลยีที่บริษัทนำมาใช้สามารถแก้ไขจุดบกพร่องดังกล่าว เพราะเป็นรูปแบบสนามปิดที่กั้นแต่ละเลนฝึกซ้อมด้วยกระจกนิรภัย สามารถวัดค่าต่าง ๆ ด้วยอุปกรณ์ทันสมัย ช่วยเพิ่มทักษะให้กับผู้ฝึกซ้อมได้ดีขึ้น
นอกจากนั้น บริษัทยังมีสายธุรกิจด้านเทรดดิ้งสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบแอนตี้โดรน ระบบรบกวนคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะได้ทยอยได้รับงานเข้ามาเพิ่มขึ้นจากที่ได้เจรจาไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถคาดเดาปริมาณงานได้ เพราะเป็นการรับงานในรูปแบบ Made To Order
ส่วนธุรกิจบริการจัดการ (เอ๊าท์ซอร์ส) คาดว่าในไตรมาส 4/60 จะได้รับงานเข้ามามาก เนื่องจากลูกค้าเดิมหลายรายจะสิ้นสุดสัญญาให้บริการ ซึ่งทั้ง 100% เป็นหน่วยงานราชการ เชื่อว่าจะมีการต่อสัญญาใหม่กับบริษัท ซึ่งปริมาณงานน่าจะค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น และเป็นงานที่สร้างอัตรากำไรที่ดีกว่าด้วย เชื่อว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้ได้ออกมาดีขึ้นกว่าปีก่อน
บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,420 ล้านบาท หรือคาดว่าจะมีรายได้ราว 1,700 ล้านบาท และกำไรจะเติบโตจากปีก่อน เนื่องจากขณะนี้มีงานในมือ (Backlog) สูงถึง 4.2 พันล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 1.56 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานเอ๊าท์ซอร์ส 535 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปีนี้ 750 ล้านบาท ธุรกิจบริการวิศวกรรม 739 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปีนี้ราว 665 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในปีนี้งานวิศวกรรมด้านสื่อสารจะหดตัวลง แต่บริษัทได้หางานใหม่ ๆ เข้ามาสร้างรายได้เสริมเข้ามา อย่างเช่นสร้างสนามซ้อมยิงปืน ขณะที่งานด้านวิศวกรรมไฟฟ้าก็ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
โดยเฉพาะบริษัทเน้นการรับงานในต่างจังหวัดที่มีโครงการต่างๆ เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบสายไฟฟ้า เช่น การนำสายไฟฟ้าบริเวณทางแยกลงดิน และยังเตรียมเสนองานอื่น ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการระบบสายไฟฟ้าและสายสัญญาณสื่อสารต่าง ๆ ให้กับหน่วยงานภาครัฐเพิ่มเติมด้วย
ด้านธุรกิจพลังงาน นอกเหนือจากที่บริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 16.7 เมกะวัตต์ที่เริ่มจ่ายไฟตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว บริษัทยังมองหาโอกาสจะลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟเพิ่มเติม หรืออาจจะเข้าไปในรูปแบบการรับงานก่อสร้างและวางระบบ (EPC) โดยจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขผลตอบแทนการลงทุนอยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้น บริษัทจึงยังไม่มีแผนเข้าร่วมยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าในภาครัฐ เพราะมองว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหลายรายที่สนใจติดตั้งโซลาร์รูฟ ทั้งการเข้าไปร่วมลงทุนและรับงานติดตั้งระบบ แต่หากเป็นการลงทุนของบริษัทเองนั้นจะพิจารณาดำเนินการหากต้นทุนลดลงจากปัจจุบันราว 20-30% เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่คุมค่า ซึ่งบริษัทยืนยันว่ามีความพร้อมในการลงทุนจากกระแสเงินสดและเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ในปี 59 โดยไม่จำเป็นต้องหาเงินทุนเพิ่ม