K เสียงอ่อยรับปีนี้ขาดทุน หลังรายได้พลาดเป้า

นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ K เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ หลังครึ่งปีแรกขาดทุน 60.23 ล้านบาท และรายได้อาจจะต่ำกว่าระดับ 1.18 พันล้านบาทในปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงต้นปีมีพนักงานกลุ่มหนึ่งลาออก ซึ่งงานในส่วนนี้เคยสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 400-500 ล้านบาท/ปี

ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปรับงานปรับปรุงและพัฒนาส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ ทำให้การรับรู้รายได้อาจจะเข้ามาช้ากว่าที่คาดไว้ ขณะที่งานตกแต่งภายในก็มีการรับรู้รายได้ที่น้อยลงมาก

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 800 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังราว 600 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทมีการประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีมูลค่าราว 1,600 ล้านบาท แบ่งเป็นงานออกแบบภายใน 1,400 ล้านบาท และงานจัดแสดงสินค้ามูลค่า 200 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลการประมูลงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และคาดว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 20% ของมูลค่างานทั้งหมด

“ในช่วงต้นปีมีกลุ่มพนักงานที่ลาออกไปตั้งบริษัทเองทำให้เราเสียบุคลากรไปบางส่วน ซึ่งส่วนนี้สามารถสร้างรายได้ให้เรากว่า 400-500 ล้านบาทต่อปี และงานตกแต่งภายในที่หายไปมาก เนื่องจากห้างสรรพสินค้าต่างๆ ชะลอการเปิดออกไป

ขณะที่การรับรู้รายได้ของงานปรับปรุงและพัฒนาส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ก็ไม่มากนัก ทำให้บริษัทมีผลขาดทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราก็ได้ปรับโครงสร้างภายในใหม่ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งหลาย ๆ อย่างคงจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นปี 61 และจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังปี 61″นายชยวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 34 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ที่เหลืออยู่ราว 50-60 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นการสร้างโรงงานเพิ่มในพื้นที่เดิมอีก 2 แห่ง มูลค่าราว 24 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้บริษัทได้ก่อสร้างโรงงานไปแล้ว 3 แห่ง ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปีนี้

ส่วนที่เหลืออีก 10 ล้านบาท จะใช้เป็นทุนจดทะเบียนบริษัทใหม่ในประเทศกัมพูชา โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงไตรมาส 4/60 หรืออย่างช้าไตรมาส 1/61

สำหรับในเมียนมาร์ที่บริษัทได้เข้าไปขยายธุรกิจมาก่อนหน้านี้ บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ราว 30 ล้านบาท จาก 9.5 ล้านบาทในปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog ในมือราว 8 ล้านบาทที่จะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง และอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีก 30 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลเร็ว ๆ นี้