ยังเจ็บไม่พอ? กลุ่ม “จิราธิวัฒน์” ซื้อหุ้น NMG จาก “คีรี” กุมบังเหียน 2 สื่อยักษ์ใหญ่

ยังเจ็บไม่พอ? กลุ่ม “จิราธิวัฒน์” ซื้อหุ้น NMG จาก "คีรี" 9.6359% ขึ้นกุมบังเหียน 2 สื่อยักษ์ใหญ่ "บางกอกโพสต์"-"เนชั่น"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการได้มาของหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG โดย CHIT LOM LIMITED ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2560 จำนวนหลักทรัพย์ที่ที่ได้มาคิดเป็น 9.6359% ของสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 9.6359% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ทั้งนี้การซื้อหุ้นดังกล่าว CHIT LOM LIMITED ได้ซื้อหุ้น NMG ทั้งหมดในส่วนของบริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED ซึ่งถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 391,972,000 หุ้น

อนึ่ง CHIT LOM LIMITED เป็นธุรกิจของกลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์ได้เข้ามาซื้อหุ้นจากบริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED ซึ่งเป็นธุรกิจของ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS

อย่างไรก็ตาม หลังการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้ ส่งผลให้ CHIT LOM LIMITED ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ NMG และตระกูลจิราธิวัฒน์ กลายเป็นเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ 2 ค่าย คือ บางกอกโพสต์ และเนชั่น ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ 2 หัวใหญ่ของไทย

โดยก่อนหน้านี้ นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โพสต์ทูเดย์ และล่าสุดได้มาซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มคีรี ในนามบริษัท บริษัท CHIT LOM LIMITED และกลายเป็นผู้ถือหุ้นของเนชั่น มัลติมีเดีย ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เนชั่น ช่องเนชั่นทีวี ช่อง now, หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

อนึ่ง ผลการดำเนินงานของ NMG มีผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 59 บริษัทพลิกขาดทุนมาที่ 1.1 พันล้านบาท จากปี 58 มีกำไร 35.58 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 60 บริษัทขาดทุนมาที่ 519.12 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 341.78 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานของ POST มีผลขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 57 ขณะที่ 6 เดือนแรกขาดทุนมาที่ 119.64 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 143.71 ล้านบาท

ดังนั้น จากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องของ NMG และ POST ทำให้เป็นที่น่าจับตามองว่า การเข้าซื้อหุ้น NMG ของกลุ่ม “จิราธิวัฒน์” ในครั้งนี้จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่

Back to top button