BKD มั่นใจรายได้ปีนี้โตทะลุ 20% พร้อมบุกตลาดเมียนมาร์-เวียดนาม
BKD มั่นใจรายได้ปีนี้โตทะลุ 20% เผยอยู่ระหว่างรอผลประมูล 2.5 พันลบ. คาดได้รับงานราว 20% เตรียมพร้อมบุกตลาดเมียนมาร์-เวียดนามเพิ่ม
นางสาวณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.36 พันล้านบาท จากจำนวนงานทั้งภาครัฐและเอกชนในช่วงครึ่งปีหลังที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ การที่บริษัทได้เลือกรับงานที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยตามนโยบายบริษัทที่ระดับ 15% ทำให้ในแง่ของการเติบโตของกำไรออกมาในระดับที่บริษัทพอใจ
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังมีรายการพิเศษเป็นรายได้การขายที่ดินย่านกรุงเทพ-กรีฑา มูลค่าราว 400 ล้านบาท แต่ทางบริษัทไม่ได้นำนำเข้ามารวมในคาดการณ์การเติบโตของรายได้ในปีนี้ แต่ถ้าหากรวมแล้วก็จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยผลักดันรายได้ให้เติบโตได้มากกว่า 50% หรือแตะ 2 พันล้านบาทในปีนี้
ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าขยายการรับงานในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากเซ็น MOU รับงานรับเหมาตกแต่งภายใน มูลค่าราว 1 พันล้านบาทในกัมพูชา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้บริษัทรับรู้รายได้ไปแล้ว 250 ล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีจะรับรู้ฯ เพิ่มอีก 200 ล้านบาท และในส่วนที่เหลือหากสัญญาจ้างไม่ล่าช้าก็จะรับรู้ฯ อีก 550 ล้านบาทในปี 61
หลังจากนั้นทางบริษัทก็ยังพยายามหางานใหม่เข้ามาทดแทนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ารายเดิมที่มีแผนจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและหมู่บ้านเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทก็หวังว่าจะได้รับงานต่อเนื่อง
อีกทั้งบริษัทได้วางแผนการรุกเพื่อเข้ารับงานในเมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งเป็นงานรับเหมาตกแต่งภายใน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งทีม Marketing เข้าไปทำการตลาดและหางาน รวมถึงได้ทำการศึกษาแผนต่าง ๆ ที่จะเข้าไปลงทุน คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งหากได้รับงานจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้าทันที
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานประเภทตกแต่งภายในมูลค่างานรวม 2.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานของภาคเอกชน ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับงานราว 20% ของมูลค่าที่ยื่นประมูลไป
ขณะเดียวกันยังเตรียมเข้ายื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีก มูลค่ารวม 2.5 พันล้านบาท และคาดว่าจะได้ข้อสรุปทันภายในปีนี้ ซึ่งงานใหม่ที่เข้ามาจะช่วยเพิ่มปริมาณงานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของผลการดำเนินงานในระยะต่อไป