TM อัพเป้ารายได้ปีนี้เป็น 630 ลบ. หลังตามยอดขายพุ่ง เล็งขยายตลาดในตปท.ชัดเจนปลายปีนี้
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทค …
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตเป็น 630 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 600 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมีรายได้ราว 291 ล้านบาท และมองว่าครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ตามคำสั่งซื้อเครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ประเภทใช้แล้วทิ้งในห้องผ่าตัด และอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับการผ่าตัดหัวใจที่น่าจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากภาครัฐราว 60% และเอกชน 40%
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงขยายช่องทางการตลาดออนไลน์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ประกอบกับมีผู้เข้ามาติดต่อให้บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทใช้แล้วทิ้ง ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาจำนวน 2 ราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
“ช่วงที่เหลือของปีนี้เรายังคงเน้นการขายสินค้าที่เรามีอยู่ ทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทใช้แล้วทิ้งในห้องผ่าตัด และอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับการผ่าตัดหัวใจ เนื่องจากในครึ่งปีหลังนี้จะเป็นช่วงของการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ก็น่าจะส่งผลดีต่อยอดคำสั่งซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวเข้ามาจำนวนมาก” นางสุนทรี กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ไว้ไม่ให้ต่ำกว่า 40% จากปีก่อนอยู่ที่ 41.32% และครึ่งปีแรกอยู่ที่ 42.22% ส่วนอัตรากำไรสุทธิปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.82% และครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5% จากการเพิ่มยอดขาย และการลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหากมีการลงทุนเกิดขึ้นบริษัทมีความพร้อมทางด้านการเงินเพียงพอจากมีเงินสดในมืออยู่ราว 80 ล้านบาท และเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ที่ยังเหลืออยู่ราว 50 ล้านบาท
สำหรับการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการธุรกิจน้ำยาล้างไต บริษัทได้ยกเลิกการเข้าลงทุน เนื่องจากได้เข้าไปศึกษาธุรกิจดังกล่าวแล้ว พบว่าผลประกอบการของคู่เจรจายังไม่ดีมากนัก ขณะที่ธุรกิจเลเซอร์เสริมความงาม ปัจจุบันยังไม่ได้มีการเจรจา