COMAN ทุ่มงบ 200 ลบ. ลุยซื้อกิจการซอฟท์แวร์ท่องเที่ยว-คาดผลงาน H2 สดใส รับไฮซีซั่น

COMAN ทุ่มงบ 200 ลบ. ลุยซื้อกิจการซอฟท์แวร์การท่องเที่ยวทุกประเภทในช่วงปี 60-62 – คาดผลงานครึ่งปีหลังสดใส รับช่วงไฮซีซั่นธุรกิจโรงแรม


นายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการผลิตซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการร้านอาหาร ร้านสปา สนามกอล์ฟ ธุรกิจทัวร์ และระบบจองตั๋วโดยสาร เพื่อกระจายรายได้ให้ครบในทุกธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว จากปัจจุบันที่บริษัทมีซอฟต์แวร์บริหารจัดการโรงแรมเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ บริษัทจะคัดเลือกเข้าซื้อกิจการที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความเชี่ยวชาญในตลาดนั้นอยู่แล้ว โดยได้ตั้งงบลงทุนราว 200 ล้านบาท และจะเข้าซื้อต่อเนื่องภายใน 3 ปีนี้ (60-62) เพื่อให้ครบทุกกลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยวตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะสดใสและเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 72.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.54 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงแรม จึงส่งผลให้มีการเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันมีดีลโรงแรมขนาดใหญ่เข้ามาต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก  รวมทั้งจะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท ซินเนเจอร์ เทคโนโลยี จำกัดเข้ามาในไตรมาส 3 นี้สนับสนุนเพิ่มอีกด้วย

ขณะที่รายได้ในต่างประเทศก็จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน จากการขยายตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ที่จะเพิ่มเป็น 10 ประเทศในไตรมาส 3/60จากปัจจุบันที่มี 7 ประเทศ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 18 ประเทศในปี 61 แบ่งเป็นแถบเอเชีย 10 ประเทศ และตะวันออกกลาง 4 ประเทศ โดยในครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่าอัตรากำไรสุทธิทั้งปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 24.98% แต่คาดว่าครึ่งปีหลังจะสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ทำได้ 10.12%  เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการเข้ามาค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ประกอบกับมีการรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยที่มีรายได้สูงแต่มาร์จิ้นค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ภาพรวมอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไม่ค่อยดีนัก

“ในไตรมาส 3/60 ผลประกอบการจะเติบโตจากไตรมาส 2/60 และในไตรมาส 4/60 รายได้และกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตอนนี้สัญญานดีขึ้นเพราะเริ่มเข้าช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และเป็นช่วงที่ดีของเราเช่นกัน ที่ผ่านมามีการเข้าเจรจาพูดคุยกับโรงแรมใหม่ๆ หลายแห่งในการเข้าติดตั้งระบบ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ,ซินเนเจอร์ เทคโนโลยีก็เป็นอีกหนึ่งที่สนับสนุนจากการเข้าซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังดีกว่าขึ้นปีแรกแน่นอน โดยเฉพาะไตรมาส 4 จะพีคสุด และยังมีแบล็กล็อกในมือกว่า 30 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เข้ามาในไตสมาส 3และไตรมาส 4 นี้อีก ดังนั้นการเติบโตรายได้ในปีนี้ 10-20% จากปีก่อนได้ตามเป้าหมาย” นายสมบรูณ์ กล่าว

Back to top button