AOT ดีดบวกเกือบ 2% รับนักท่องเที่ยวโตกระฉูด กลบประเด็น “ธนารักษ์” ขึ้นค่าเช่าที่ดิน

AOT ดีดบวก 2% ขานรับตัวเลขนักท่องเที่ยวโตกระฉูด ไม่หวั่นจ่ายค่าเช่าสุวรรณภูมิย้อนหลัง 4 พันลบ. ล่าสุด ณ เวลา 11.36 น. อยู่ที่ 60 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.27% สูงสุดที่ 60 บาท ต่ำสุดที่ 57.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.05 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมลบ 0.02%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ภาคเช้าเปิดตลาดที่ 58.50 บาท ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้า และทำจุดต่ำสุดที่ 57.50 บาท หรือปรับตัวลง 1.75 บาท หรือคิดเป็น 3.04% ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาจากประเด็นที่กรมธนารักษ์เรียกเก็บค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิใหม่ที่ 2.5 พันล้านบาท/ปี จากเดิม 1.5 พันล้านบาท/ปี และจะมีการเก็บค่าเช่าย้อนหลัง 5 ปี (ปี 56-60) จำนวน 4 พันล้านบาท โดยประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลกับรายจ่ายของบริษัทและทำการขายหุ้นออกมาในช่วงเปิดตลาด

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น AOT ดีดกลับมาอยู่ในแดนบวกได้ หลังจากที่กระทรวงการท่องเที่ยวประกาศตัวเลขนักท่องเที่ยว 7 เดือนแรกของปี 60 เป็น 20.4 ล้านคน เติบโต 4.5% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็นเป็น 34.4 ล้านคน คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

โดย ล่าสุด ณ เวลา 11.36 น. อยู่ที่ 60 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.27% สูงสุดที่ 60 บาท ต่ำสุดที่ 57.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.05 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมลบ 0.02%

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตในอัตราเร่ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจาก 7 เดือนแรก เป็น 20.4 ล้านคน เติบโต 4.5% จากปีก่อน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่าตลอดปีนี้เป็น 34.4 ล้านคน คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5.8%จากปีก่อน

โดยคาดว่าจะก้าวเข้าสู่สามไตรมาสจากนี้คือ ไตรมาส 3/60, 4/60 และไตรมาส 1/60 ที่กำไรจะมีการเติบโตได้สูงขึ้น เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น ราคาค่าห้องพักสูงขึ้น และการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งฐานปีที่แล้วก็ต่ำ เพราะมีเหตุการณ์ไว้อาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ภาพรวมของหลักทรัพย์ทั้งหมดของกลุ่มนี้ที่วิเคราะห์อยู่ (ไม่รวม AAV)  คือคาดว่าอัตราการเติบโตกำไรในครึ่งปีหลังของปี 60 เป็น 16.3% เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 60 เป็น 12.5% และจะมีโมเมนตัมที่ดีต่อไปยังไตรมาส 1/60 ด้วย ด้านกำไรหลักปีนี้และปีหน้าของกลุ่มเติบโตสดใสเป็น 14%/16% จากปีก่อน ตามลำดับ

ทั้งนี้ประเทศไทยได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เน้นคุณภาพของนักท่องเที่ยวมากกว่าปริมาณ มีการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ เน้นสร้างประสบการณ์ในการท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงาม ให้มีอายุการพักในไทยที่ยาวนานขึ้น สิ่งสำคัญคือ อัตราเติบโตนักท่องเที่ยวดูจะเป็นเลขตัวเดียว แต่ถ้าเพิ่มค่าเฉลี่ยการจับจ่ายใช้สอยให้เพิ่มขึ้นได้ ก็จะมีผลดี

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า กรณีที่กรมธนารักษ์จะเรียกเก็บค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิใหม่ที่ 2.5 พันล้านบาท/ปี จากเดิม 1.5 พันล้านบาท/ปี และจะมีการเก็บค่าเช่าย้อนหลัง 5 ปี (ปี 56-60) จำนวน 3-4 พันล้านบาท แต่ต่ำกว่าเดิมที่เคยเรียกเก็บ 2 หมื่นล้านบาทนั้น โดยจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) วันที่ 20 ก.ย.นี้ โดยเห็นว่าประเด็นดังกล่าวอาจเป็นลบกับ AOT อย่างไรก็ตาม ส่วนค่าใช้จ่ายย้อนหลังยังต้องรอสรุปตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่เกิน 4 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะบันทึกเข้ากำไรสะสม และ AOT มีเงินสดเพียงพอค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่แล้ว

ส่วนการเรียกเก็บค่าเช่าเพิ่มปีละ 1 พันล้านบาท ยังเป็นไปตามที่คาด และในอนาคต AOT สามารถผลักภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปให้ผู้เช่าได้ ทั้งนี้ หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมองเป็นโอกาสในการเข้า “ซื้อ” จากภาพรวมการท่องเที่ยวที่เติบโต และยังอาจมี Upside เพิ่มจากการประมูลพื้นที่เช่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 64 บาท

 

Back to top button