ASAP จับมือพันธมิตรขายรถครบสัญญาเช่าผ่านออนไลน์ หนุนกำไรขายรถเพิ่มอีก 15%
ASAP จับมือพันธมิตร 2 รายขายรถครบสัญญาเช่าผ่านช่องทางออนไลน์ คาดหนุนกำไรจากการขายรถเพิ่มอีก 15% เผยอยู่ระหว่างพัฒนาแอพพลิเคชั่น Asap GO เพื่อรองรับขยายการให้บริการ
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมจับมือกับพันธมิตรเว็บไซต์จำหน่ายรถยนต์มือสองรายใหญ่ของไทย เพื่อนำรถยนต์ที่ครบสัญญาการเช่าระยะยาวของ asap ไปจำหน่ายผ่านช่องทางเว็บไซต์ ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์มือสองของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์
โดยบริษัทได้ชูจุดเด่นของรถยนต์ที่ครบสัญญาการเช่าแล้วนำมาจำหน่ายผ่านช่องทาง Online นั้น ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบประวัติการดูแลรักษาซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการ ตลอดจนประวัติการใช้งานตั้งแต่ไมล์แรกจนถึงวันที่ครบสัญญาแล้วนำมาจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสอง ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ
ทั้งนี้บริษัทประเมินว่าการจำหน่ายรถยนต์ครบสัญญาผ่านช่องทางนี้ จะทำให้ asap สามารถทำราคาขายและกำไรจากการขายรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับช่องทางจำหน่ายอื่น ๆ
“ในปีนี้ เรามีรถยนต์ที่ครบสัญญาการเช่าประมาณ 1,000 คันที่จะทยอยจำหน่ายไปเป็นรถยนต์มือสองให้แก่ผู้บริโภค และจะเพิ่มเป็น 4,000-5,000 คัน ตามปริมาณการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ให้เช่าระยะยาวในอนาคต ดังนั้น เมื่อเราสามารถทำราคาขายต่อหน่วยจากรถยนต์ที่ครบสัญญาการเช่าที่ดีขึ้น ย่อมจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของเราให้เติบโตขึ้นได้อีกทางหนึ่ง”นายทรงวิทย์ กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าการเปิดให้บริการ asap GO (เอแซ็ป โก) ภายใต้แนวคิด Car Sharing ซึ่งคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง (Pay per use) นั้น หลังเริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตามอาคารสำนักงานประมาณ 6 แห่ง พบว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะนักธุรกิจต่างชาติหรือกลุ่มพนักงานลูกค้าองค์กรธุรกิจข้ามชาติ เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับการใช้บริการในลักษณะนี้ในต่างประเทศ บริษัทจึงมีแผนขยายจุดให้บริการ asap GO เพิ่มเติม โดยเชื่อมั่นว่าจะเปิดให้บริการได้ครบ 30 อาคารตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาแอพพลิเคชั่น asap GO ไปสู่กลุ่มลูกค้าบุคคล หรือ Business to Customer (B2C) โดยจะเปิดให้พนักงานองค์กรที่เป็นคู่สัญญา สามารถใช้บริการ asap GO ในนามส่วนตัว โดยค่าบริการจะเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการโดยตรง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในรูปแบบดังกล่าวได้ภายในปีนี้ รวมถึงมีแผนเพิ่มปริมาณรถยนต์เพื่อรองรับการขยายการให้บริการ asap GO อีกด้วย
“ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ เชื่อว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย มาจากปัจจัยปริมาณรถยนต์ให้เช่าระยะยาวยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นก็มีสัญญาณเชิงบวกที่จะเข้าสู่จุดคุ้มทุนเร็วกว่าที่คาดการณ์ รวมถึงการจำหน่ายรถยนต์มือสองผ่าน Online ที่ช่วยเพิ่มกำไรได้ดีขึ้นอีกด้วย” นายทรงวิทย์ กล่าว