ดักเก็บ! 3 หุ้นเดินเรืออัพไซด์สูง-ราคาถูก รับ BDI นิวไฮในรอบเกือบ 3 ปี 

ดักเก็บ! 3 หุ้นเดินเรืออัพไซด์สูง-ราคาถูก รับ BDI นิวไฮในรอบเกือบ 3 ปี 


ช่วงดัชนีค่าระวางเรือ BDI (Badi Dry Index) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยวานนี้(20 ก.ย.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1449 จุด และทำนิวไฮในรอบเกือบ 3 ปี โดยเทียบดัชนีเคยขึ้นไปทดสอบระดับ 1437 จุด เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2557  ขณะที่คาดภาพรวมอุตสาหกรรมเรือเทกองในระยะยาวมีแนวโน้มฟื้นตัว และคาด BDI จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 4/60 จากแรงหนุนการนำเข้าถ่านหินของจีนก่อนเข้าฤดูหนาว,การนำเข้าแร่เหล็กของจีน และฤดูกาล Grain trading ของอเมริกาเหนือ

อีกทั้ง BDI จะดีขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ภายใต้การปลดระวางเรือมีแนวโน้มเร่งตัวในระยะกลาง หลังข้อตกลงการจัดการน้ำถ่วงเรือ เริ่มใช้ในเดือนก.ย. และคาด Supply กองเรือในปีนี้จะเพิ่มในอัตราต่ำราว1-2% ขณะที่ปีหน้าคาด Supply อาจจะคงที่หรือลดลงเล็กน้อยโดยคาดภาวะ Oversupply ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยล่าสุด Order-book เรือใหม่อยู่ที่ราว 8% ของกองเรือปัจจุบันซึ่งต่ำสุดในรอบ 15 ปี

แน่นอนแรงหนุนดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มเดินเรือ“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”จึงทำการรวบรวมข้อมูลหุ้นกลุ่มเดินเรือที่ได้รับผลดีจากปัจจัยดังกล่าวมานำเสนอ อาทิ TTA,PSL และ RCL เนื่องจากหุ้นดังกล่าวมีแนวโน้มกลับพลิกฟื้นกลับมาทำกำไร และหุ้นส่วนใหญ่ยังมีอัพไซด์สูงและมีราคาถูก โดยเฉพาะบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ซึ่งโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 13.00 บาท และเมื่อเทียบราคาหุ้น ณ วันที่ 20 ก.ย.ที่ระดับ 10.20 บาท พบว่าหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 11.08 บาท และหุ้นยังมีอัพไซด์สูงถึง 27.45% 

ส่วนบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ซึ่งโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 13.50 บาท ซึ่งเมื่อเทียบราคาหุ้นณ วันที่ 20 ก.ย.ที่ระดับ 11.40 บาท หุ้นยังมีอัพไซด์สูงถึง 18.42%  ด้านบริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL พบว่าราคาหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 20 ก.ย. อยู่ที่ระดับ 7.90 บาท โดยต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีซึ่งอยู่ที่ระดับ 10.43 บาท ดังนั้นจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มเดินเรืออีกครั้ง

       

บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้ปัจจัยบวกจากสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีที่ผ่อนคลายหลังสหรัฐต้องการแก้ปัญหาด้วยวิธีทางการทูต รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเหนือ 50 US/Barrelและ Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลเข้า อย่างไรก็ตามภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนี

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,680 – 1,690 จุด ทั้งนี้แนะนำ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อานิสงส์ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และคาดการณ์กำไรไตรมาส 3/60 เติบโต รวมถึง PSL และ TTA ที่ได้รับอานิสงส์จากดัชนีค่าระวางเรือปรับขึ้นทำ High

 

บล.บัวหลวง ปรับคำแนะนำของกลุ่มขนส่งขึ้นจาก UNDERWEIGHT เป็น NEUTRAL โดยชอบ AAV, AOT, PSL และ TTA ที่สุดใน กลุ่ม โดยมองว่าทั้งกลุ่มขนส่งทางอากาศ,เรือ และบก มีปัจจัยบวกหนุน สำหรับปัจจัยหนุนกลุ่มชนส่งทางอากาศ มาจากช่วง High season ของการท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/60 ต่อเนื่องไปถึงในไตรมาส 1/61โดยคาดว่าจะหนุนกำไรของกลุ่มให้เติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 4/60-ไตรมาส1/61

ด้านกลุ่มขนส่งภาคพื้นดิน เข้าสู่ช่วง High season เช่นเดียวกัน ซึ่งโดยปกติจำนวนการใช้จะเติบโตเทียบไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 3 และเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4 รวมถึงการประมูลโครงการใหม่จะหนุนอัพไซด์ต่อกลุ่ม ในด้านของกลุ่มเดินเรือ คาด BDI จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 4/60 หนุนโดยช่วง High season เช่นเดียวกัน ได้แก่การนำเข้าถ่านหินของจีนก่อนเข้าฤดูหนาว,การนำเข้าแร่เหล็กของจีน และ ฤดูกาล Grain trading ของอเมริกาเหนือ

 

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า TTA ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของค่าระวางเรือ เมื่อดัชนีค่าระวางเรืออยู่ระดับเกิน 1,000 จุด กิจการเดินเรือของ TTA จะพ้นจุดคุ้มทุนและมีกำไร ปัจจุบันค่าระวางเรือยืนที่ 1,300 จุดแล้ว ดัชนีค่าระวางเรือฟื้นตัวต่อเนื่อง จาก (1) ความต้องการนำเข้าถ่านหินและแร่เหล็กคุณภาพสูงของจีนที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายควบคุมมลภาวะและเน้นการผลิตเหล็กคุณภาพสูง และ (2) จีนเร่งนำเข้าถ่านหินก่อนเข้าฤดูหนาว ภาพรวมอุตสาหกรรมเรือเทกองในช่วงที่เหลือของปีดูสดใสต่อเนื่องถึงปีหน้าจากการค้าที่ฟื้นตัว

โดยองค์กรการค้าโลก (WTO) คาดว่าปริมาณการค้าทั่วโลกในปี 2560 จะเร่งตัวขึ้น 2.4% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1.8% สำหรับธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทมีแนวโน้มเติบได้ดีเช่นกัน ธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งของ MML จะเข้า High Season ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 และเมื่อ 6 ก.ย.60 MML เพิ่งได้งานเพิ่มเป็นงานซ่อมบำรุงใต้น้ำรวม 3 สัญญามูลค่างาน 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 400 ล้านบาท ในมาเลเซีย 1 สัญญา และในตะวันออกกลางอีก 2 สัญญา

สำหรับธุรกิจถ่านหินของ UMS จะปรับตัวดีขึ้นตามราคาถ่านหินที่ฟื้นตัว คาดว่าปีนี้อาจจะไม่มีผลขาดทุนจากธุรกิจถ่านหิน UMS เข้ามาแล้ว (ปกติขาดทุนปีละ 50 ล้านบาท) AWS คาดว่า TTA จะฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิในปี 2559 ที่ 418 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิในปี 2560 ที่ 1,543 ล้านบาทและคาดกำไรสุทธิปี 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14% เป็น 1,761 ล้านบาท ราคาปัจจุบัน TTA ยังเทรดที่ PBV เพียง 0.9 เท่า ให้ราคาเหมาะสม TTA ที่ 13 บาท อิงค่า forward PBV ปี 2560 ที่ 1.1 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท

 

บล.ไอร่า ระบุว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเรือเทกองในระยะยาวมีแนวโน้มฟื้นตัว คาด BDI จะดีขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ภายใต้การปลดระวางเรือมีแนวโน้มเร่งตัวในระยะกลาง หลังข้อตกลงการจัดการน้ำถ่วงเรือ เริ่มใช้ในเดือน ก.ย. คาด Supply กองเรือในปีนี้จะเพิ่มในอัตราต่ำราว 1 – 2%

ขณะที่ปี 61 คาด Supply อาจจะคงที่หรือลดลงเล็กน้อยโดยคาดภาวะ Oversupply ดีขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุด Order-book เรือใหม่อยู่ที่ราว 8% ของกองเรือปัจจุบัน ซึ่งต่ำสุดในรอบ 15 ปี ขณะที่กลุ่มเรือหลักของ PSL คือ Supramax มี Order Book ต่ำเพียง 2.0%

ขณะที่ผลการดำเนินงานเข้าใกล้จุดคุ้มมากขึ้น  ไตรมาส 2/60 ผลการดำเนินงานปกติดีกว่าคาด โดยขาดทุนลดลงราวครึ่งหนึ่งเทียบไตรมาสก่อนหน้าเหลือ 33 ล้านบาท จากการควบคุมต้นทุนที่ยังทำได้ดี ขณะที่ Performance เรือ Supramax ของ PSL ทำได้ดีขึ้น พร้อมปรับประมาณการปี 60 คาดขาดทุน 183 ล้านบาท ดีขึ้นจากเดิมคาดขาดทุนเกือบ 600 ล้านบาท และคาดกลับมากำไรสุทธิในปี 61 ประเมินราคาเป้าหมายปี 61 ที่ 13.50 บาท

บล.เอเอสแอล ระบุว่า ค่าระวางเรือ BDI ระยะกลางยังฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวเป็นหลัก แนะเก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ ยังมีมุมมองบวกต่อกลุ่มเดินเรือ ภาพ BDI ยังเป็นขาขึ้นส่งผลบวกต่อทิศทางผลการดำเนินงาน แนะนำ PSL ผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้ฟื้นตัว

 

บล.โกลเบล็ก แนะนำซื้อเก็งกำไร RCL โดยให้แนวต้านที่ระดับ 8.50 บาท อย่างไรก็ตามแม้ว่ากราฟจะยังเป็นช่วงพักตัว แต่ล่าสุดเริ่มมีการสร้างฐานที่บริเวณ 7.50 บาท พร้อมกับเครื่องมือ RSI + MACD ดีดตัวชี้ขึ้นและสนับสนุนทิศทางมีโอกาสดีดตัวขึ้นเป็น W shape ได้ ที่สำคัญพบว่าราคาหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 20 ก.ย. อยู่ที่ระดับ 7.90 บาท โดยต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีซึ่งอยู่ที่ระดับ 10.43 บาท

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button