รัฐฯเตรียมโรดโชว์โครงการ EEC ในสหรัฐฯต้นเดือนหน้า ลุ้นประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาทันปีนี้

สืบเนื่องจากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร เห็นชอบร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. … ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงอีกครั้ง และให้ส่งคระกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมายที่กำหนดขอบเขตของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่โดยเหมาะสมกับสภาพและศักยภาพของพื้นที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการบูรณาการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคให้ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันทั้งในและนอกเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

นอกจากนั้น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกมีหน้าที่กำหนดนโยบายและการกำกับดูแล โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับผิดชอบงานธุรการและงานวิชาการ คณะกรรมการฯ อาจจะประกาศให้พื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งภายในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเป็น “เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ” เพื่อวัตถุประสงค์ในการผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สร้างนวัตกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด นายอุตตมะ สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development:EEC) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะมีการประชุมเพื่อพิจารณากระบวนการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ซึ่งคาดว่ากฎหมายฉบับนี้จะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ในปีนี้

ทั้งนี้ หากมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้ว เชื่อว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนไทยเป็นอย่างมาก โดยกฎหมายดังกล่าวจะเข้ามาดูแลและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ EEC ให้ดีขึ้น

โดย รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ คณะทำงาน EEC จะลงพื้นที่เพื่อเข้าไปดูเรื่องการพัฒนาระบบการศึกษา เพื่อผลิตบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย อีกทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวด้วยเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนา EEC และในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ รัฐบาลจะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลของโครงการ EEC ในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสหรัฐฯ พอสมควร

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของแนวทางการร่วมทุนของภาคเอกชนในรูปแบบ PPP ในพื้นที่ EEC ว่า รัฐบาลเตรียมประกาศใช้ระเบียบโครงการ PPP ในสัปดาห์หน้า และจะมีการประกาศ TOR ได้ในช่วงปลายปีนี้

โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการคัดเลือกผู้ที่สนใจลงทุนได้ในช่วงไตรมาส 2/61 และจะสามารถเปิดประมูลโครงการ 4 โครงการหลักได้ในช่วงกลางปี 61  ประกอบด้วย โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินอู่ตะเภา เป็นต้น และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 61