JWD บวกเกือบ 4% นิวไฮในรอบกว่า 1 ปี โบรกฯแนะ “ซื้อ” ชี้ธุรกิจฟื้นตัว

JWD บวกเกือบ 4% นิวไฮในรอบกว่า 1 ปี โบรกฯแนะ "ซื้อ" ชี้ธุรกิจฟื้นตัว ล่าสุด ณ เวลา 12.12 น. ราคาอยู่ที่ 11.70 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.54% สูงสุดที่ 11.90 บาท ต่ำสุดที่ 11.40 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 99.17 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ล่าสุด ณ เวลา 12.12 น. อยู่ที่ 11.70 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.54% สูงสุดที่ 11.90 บาท ต่ำสุดที่ 11.40 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 99.17 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.39%

โดยราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นทำนิวไฮในรอบกว่า 1 ปี นับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 12.00 บาท เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2559

ด้าน บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท/หุ้น เนื่องจากธุรกิจที่ฟื้นตัว และคาดกว่ากำไรจะเติบโต 26-39% ในปี 2018-19 หลังเติบโต 87% ในปี 2017 เรามองว่าการทำ M&A และการขายสินทรัพย์เป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะใกล้นี้

โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นราว 13-17% ในปี 2560-62 เพื่อสะท้อนการดำเนินงานของคลังสินค้าอันตรายและคลังสินค้าห้องเย็นของ JWD ที่ดีกว่าคาด และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด และด้วยการปรับเพิ่มประมาณการ และการปรับมาใช้ประมาณการปี 2561 เป็นปีฐาน ราคาเป้าหมายจึงเพิ่มขึ้นเป็น 13.2 บาท จาก 11.3 บาท

สำหรับที่กำไรครึ่งปีแรกของ JWD ฟื้นตัวแข็งแกร่งที่ 67% จากปีก่อน และเราคาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นไปอีก 108% ในครึ่งปีหลัง ความต้องการคลังสินค้าเริ่มกลับมาจากปีก่อนที่มีประเด็นเรื่องประมงผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมี upside จากการทำ M&As และปัจจัยหนุนจากการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT

สำหรับ JWD มีกำไรต่อหุ้นที่เติบโตแข็งแกร่งที่ 67% จากปีก่อน ในครึ่งปีแรก และเราคาดว่าจะเติบโตไปอีก 108% จากปีก่อน ในครึ่งปีแรก จากธุรกิจคลังสินค้า 4 ประเภทของ JWD ปัจจัยที่หนุนกำไร คือ การฟื้นตัวของความต้องการห้องเย็น (19% ของยอดขายในไตรมาส 2/60) ที่กลับมาสู่ระดับปกติตั้งแต่ไตรมาส 2/60 หลังได้รับผลกระทบจากการประมงที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ไตรมาส 2/60 อีกทั้งความต้องการคลังสินค้าอันตราย (DG) (20% ของยอดขาย) ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ JWD ยังลงนามในสัญญาใหม่กับมิตซูบิชิเพื่อใช้พื้นที่ลานจอดรถยนต์เพิ่มขึ้น (17% ของยอดขาย) ในไตรมาส 4/60 อีกด้วย และด้วยมีอัตราการใช้ห้องเย็นที่มากกว่า 70% JWD จึงเพิ่มพื้นที่ห้องเย็นขึ้น 5% หรือ 2,800 ตร.ม. ในไตรมาส 4/60 โดยการเปิดคลังห้องเย็นใหม่บนถนนสุวินทวงศ์

ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มเข้าสู่รอบการเติบโตอย่างยั่งยืนใหม่ในปีหน้า ด้วยคาดว่า GDP จะกลับมาขยายตัวที่ระดับ 4% หรือมากกว่า JWD ด้วยมีฐานะที่เป็นผู้บริหารคลังสินค้าชั้นนำโดยเฉพาะในแหลมฉบัง จ.ชลบุรี บริษัทฯ จึงน่าจะเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆ และในความเป็นจริงแล้ว เห็นการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของคลังสินค้าอันตรายและคลังห้องเย็นและธุรกิจลานจอดไปแล้ว

ขณะที่คาดว่าความต้องการคลังสินค้าทั่วไป (13% ของยอดขายในไตรมาส 2/60) น่าจะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้สองแหล่งรายได้ใหม่ของ JWD จากโครงการขนส่งใหม่ (JWD Express) และSiam JWD logistics บริษัทร่วมทุน (ถือหุ้น 42%) ซึ่งให้บริการการบริหารจัดการและให้คำปรึกษาบด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรจะช่วยเพิ่มกำไรให้บริษัทฯ อีกด้วย

นอกจากนี้ JWD กำลังมองหาโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการคลังห้องเย็นในอินโดนีเซีย และ บริษัทตัวแทนขนส่งสินค้า (freight forwarder) ในไทยและต่างประเทศ ผู้บริหารคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ 1 หรือ 2 ดีลในปีนี้ นอกจากนี้ JWD ยังตั้งเป้าหมายที่จะขายสองคลังห้องเย็นที่สุวินทวงศ์ จ.ฉะเชิงเทรา และมหาชัย จ.สมุทรสาครและโครงการ datasafe ในสุวินทวงศ์ เข้า REIT ใหม่ในช่วงต้นปี 2561 อีกด้วย บริษัทฯ ได้ยื่นไฟลิ่งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว ซึ่งการเข้าซื้อกิจการ และการขายสินทรัพย์นี้น่าจะเป็น upside ต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย และยังเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น JWD ในระยะใกล้นี้อีกด้วย

 

Back to top button