GTB มั่นใจยอดขายปีนี้โตตามเป้าหลังรับงานต่อเนื่อง แย้ม H2/60 ตุน Backlog กว่า 1 พันลบ.

GTB มั่นใจยอดขายปีนี้โตตามเป้าหลังรับงานต่อเนื่อง แย้ม H2/60 ตุน Backlog กว่า 1 พันลบ. พร้อมรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าชีวมวลปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า


บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ GBS เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เซ็นสัญญารับงานผลิตบอยเลอร์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง มั่นใจช่วยเสริมรายได้ให้บริษัทได้อย่างดี โดยครึ่งปีหลังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) มากกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลมูลค่าหลายร้อยล้านบาทที่ใกล้แล้วเสร็จปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า

โดยงานที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทขยายกำลังการผลิตโดยมีการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ และขยายพื้นที่โรงงานระยองเพิ่ม มั่นใจยอดขายปีนี้มีเปอร์เซ็นต์การเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้

ด้านนายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GTB เปิดเผยว่าในปีนี้ บริษัทฯยังได้ทำการเซ็นสัญญาผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆแทบทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลและSPP, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี, กลุ่มยางและยานยนต์, กลุ่มกระดาษและสิ่งทอ, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มโรงไม้และโรงเหล็ก, กลุ่มโรงแรมและโรงพยาบาล เป็นต้น ดันให้บริษัทมีรายได้รวมกว่าพันล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า

สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงหาโอกาสในการรับงานอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่บริษัทมองว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีความคืบหน้าของการผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการผลิตและติดตั้งบอยเลอร์ประเภท Biomass Steam Boiler (Para Wood Chip) ของบริษัท บางสวรรค์กรีน จำกัด จ.สุราษฏร์ธานี กำหนดระยะเวลา 12 เดือนหลังจากลงนามในสัญญา

นอกจากนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จและทดสอบ(Test run) ประมาณกลางเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่อีก 2 โครงการเป็นของบริษัท ออสการ์ เซฟ เดอะเวิลด์ จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี เป็นการผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำประเภท VSPP 6 MWe., 9.9 MWe. และ 9.9 MWe. โครงการ 1 และ โครงการ 2 ระยะเวลาการผลิต และติดตั้ง 14 เดือนหลังจากลงนามในสัญญา โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งพร้อมทดสอบการทำงานของเครื่องได้ประมาณเดือนเมษายนปีหน้า ทำให้บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ภายในปี 2560 ต่อเนื่องไปถึงปี 2561

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทฯได้สั่งซื้อและติดตั้งเครื่องจักรรุ่นใหม่ ระบบ CNC ( Computer Numerical Control ) พร้อมขยายพื้นที่ production ของโรงงานระยองเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้การทำงานในช่วงครึ่งปีหลังมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากงานที่เริ่มทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้มากกว่า1,000 ล้านบาท รวมทั้งงานโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใกล้จะแล้วเสร็จตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บริษัทเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตของยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

Back to top button