BM มั่นใจ! งบ Q3/60 โตเด่นตามยอดขายเพิ่ม หนุนรายได้พุ่งเข้าเป้า 10%

BM มั่นใจงบ Q3/60 โตเด่น จากกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย หนุนรายได้โตตามเป้าหมายที่ 10% ฟากพันธมิตรญี่ปุ่นคาดได้สรุปเจรจาถือหุ้น 4 ต.ค.นี้


นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทคาดได้ข้อสรุปแนวทางการเข้าถือหุ้นบริษัทของพันธมิตรชาวญี่ปุ่นในวันที่ 4 ต.ค.นี้ โดยพันธมิตรร่วมทุนดังกล่าวมีความต้องการเข้าถือหุ้นสัดส่วนที่มากกว่า 10% เบื้องต้นบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ซึ่งเป็นพันธมิตรรายดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว 10% หรือคิดเป็น 40 ล้านหุ้น

“ในวันที่ 4 ต.ค. นี้ เราจะได้ข้อสรุปถึงแนวทางการเข้ามาถือหุ้นของพันธมิตรญี่ปุ่น และในวันนั้นเราก็จะให้ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เข้ามารับฟังและหาแนวทางที่เหมาะสมด้วย”นายธีรวัต กล่าว

นายธีรวัต กล่าวอีกว่า ในกรณีที่พันธมิตรรายดังกล่าวไม่สามารถเข้ามาถือหุ้นบริษัทในสัดส่วนที่มากกว่า 10% ก็อาจจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่เพื่อให้ BM สามารถเข้าไปถือหุ้นได้ แต่บริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น โดยคาดว่าจะเห็นข้อสรุปเบื้องต้นได้ภายในปีนี้ และในช่วงเดือนม.ค.61 ก็น่าจะเห็นความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในแง่ของการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่และสัดส่วนการลงทุน

“เดิมทีเขาขอซื้อ PP 10% ซึ่งทางเราได้เตรียมไว้ให้แล้ว แต่หลังจากได้ทำธุรกิจร่วมกันเขาก็มีความสนใจที่จะเข้าถือในสัดส่วนที่มากกว่านี้ แต่ผิดกฎตลาดฯ ทำให้เราต้องหาแนวทางร่วมกัน เนื่องจากพันธมิตรชาวญี่ปุ่นเขาต้องการลงทุนกับเราจริงๆ ก็คาดว่าในวันที่ 4 ต.ค. นี้ จะได้ข้อสรุปดังกล่าว”นายธีรวัต กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/60 บริษัทคาดมีรายได้เติบโตดีกว่าไตรมาส 2/60 เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แม้ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาจะชะลอตัวและมีกำลังซื้อที่อ่อนตัว รวมถึงการแข่งขันสูง แต่บริษัทยังสามารถเติบโตได้โดยมีกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกทั้งยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาวัตถุดิบในปัจจุบันจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งปีบริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10%

ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 61 บริษัทจะวางแผนงานในช่วงเดือนต.ค.นี้ ซึ่งในเบื้องต้นตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 61 เฉลี่ย 10-20% ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น และส่งผลดีต่อกำลังซื้อ ประกอบกับมีฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม รวมถึงออกสินค้ารูปแบบใหม่

ส่วนความคืบหน้าของการก่อตั้งโรงงานผลิตเหล็กแปรรูปในประเทศเมียนมาร่วมกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงต้นปี 61 โดยมีกำลังการผลิตเบื้องต้นราว 3,000-5,000 ตัน/ปี และน่าจะสร้างรายได้ราว 100-200 ล้านบาท/ปี

Back to top button