PTTGC จับมือ “JobsOhio” ศึกษาวางแผนยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนรอบโครงการในสหรัฐฯ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท.พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ร่วมในคณะนักธุรกิจไทยติดตามคณะของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์

อีกทั้งยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ระหว่าง นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท PTTGC America LLC. และ Mr. John Minor President and Chief Investment Officer, JobsOhio  หน่วยงานด้านการส่งเสริมการลงทุนในรัฐโอไฮโอ เพื่อร่วมกันศึกษา วางแผน และจัดทำโครงการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่โครงการและบริเวณใกล้เคียงในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ PTTGC America บริษัทในกลุ่มบริษัท PTTGC ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการก่อสร้าง Petrochemical Complex  ณ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา มาเป็นเวลากว่า 2 ปี ซึ่งความคืบหน้าเป็นไปตามแผนการศึกษาความเป็นไปได้ด้านการลงทุน ก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยบริษัทได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการศึกษาและประเมินความเป็นไปได้ทั้งด้านงานวิศวกรรมโรงงาน รวมถึงศึกษาผลตอบแทนการลงทุน ทั้งนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาและพัฒนาโครงการด้านต่างๆ อย่างรอบคอบ โดยโครงการ Petrochemical Complex ของ PTTGC America นี้ จะก่อให้เกิดการสร้างงาน ทั้งในช่วงก่อสร้างและเมื่อโครงการแล้วเสร็จ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในรัฐโอไฮโอ ในระยะยาว

โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง PTTGC America และ JobsOhio ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยส่งเสริมการลงทุนในรัฐโอไฮโอ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันศึกษา วางแผน และจัดทำโครงการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและเศรษฐกิจในบริเวณรอบๆ พื้นที่โครงการ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของ Petrochemical Complex และชุมชนอย่างยั่งยืน

อนึ่ง กลุ่ม PTTGC มีแผนทำโครงการ Petrochemical Complex ในสหรัฐฯ มูลค่าราว 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะใช้ก๊าซอีเทนจาก shale gas เป็นวัตถุดิบ ขณะนี้สามารถคัดเลือกมารูเบนีซึ่งเป็นเทรดดิ้งจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมทุนได้แล้ว 1 ราย และยังคงมองหาพันธมิตรร่วมทุนเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นมีแผนจะผลิตเอทิลีน 1 ล้านตัน/ปี และผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง HDPE ขนาด 7 แสนตัน/ปี, MEG และ EO ประมาณ 6 แสนตัน/ปี ซึ่งล่าสุดคาดว่าโครงการจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในปีนี้