ราชกิจจาฯประกาศคง VAT ที่ 7% นาน 1 ปี ก่อนปรับขึ้นเป็น 9% ต.ค.ปีหน้า
ราชกิจจานุเบกษาประกาศคง VAT 7% นาน 1 ปี ก่อนปรับขึ้นเป็น 9% 1 ต.ค.2561
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (3 ต.ค.) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 646) พ.ศ.2560 มีรายละเอียดระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล รัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 646) พ.ศ. 2560”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2560 เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 65/2559 เรื่อง การลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2559
มาตรา 4 ให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตรา ดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละหกจุดสาม สําหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนําเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิด ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2560 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2561
(2) ร้อยละเก้า สําหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนําเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิด ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2561 เป็นต้นไป
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๕/๒๕๕๙ เรื่อง การลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ได้กําหนดให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร จากอัตราร้อยละสิบ เป็นอัตราร้อยละหกจุดสาม เป็นการชั่วคราว สําหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนําเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ และจัดเก็บเป็นอัตราร้อยละเก้า ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นต้นไป
ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชน อันจะส่งผลทําให้ภาพรวมของการบริโภคและการลงทุนของประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงยิ่งขึ้น สมควรขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละสิบ เป็นร้อยละหกจุดสาม ออกไปอีกจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และลดอัตราเป็นร้อยละเก้า ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป จึงจําเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
โดยการประกาศในครั้งนี้เป็นการขยายระยะเวลาการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี และจะมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 9% ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561
อนึ่งปัจจุบันมีการคิดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 6.3% ยังไม่รวมการจัดสรรให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นอีกในอัตรา 1 ใน 9 ของอัตราภาษีที่จัดเก็บหรือคิดเป็น 0.7% หากรวมการจัดสรรดังกล่าวจะรวมเป็นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งสิ้นร้อยละ 7