สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
ภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ต.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐทำสถิติพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 12 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,661.64 จุด เพิ่มขึ้น 19.97 จุด หรือ +0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,537.74 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,534.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด หรือ +0.04%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในสเปน หลังจากผู้นำแคว้นกาตาลุญญายืนยันว่าจะประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่หุ้นบริษัทจดทะเบียนของสเปนร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 390.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,363.23 จุด ลดลง 4.18 จุด หรือ -0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,970.52 จุด เพิ่มขึ้น 67.87 จุด หรือ +0.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,467.58 จุด ลดลง 0.53 จุด หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากที่ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังมาร์กิตเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหราชอาณาจักรที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ย.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลง 0.53 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,467.58 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไร แม้สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 49.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 55.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยในขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ดัชนีภาคบริการพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 12 ปี
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 1,276.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.6 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 16.624 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 914.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 919.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขณะนักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ โดยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1763 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1748 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3247 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3244 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7860 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7833 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.79 เยน จากระดับ 112.92 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9749 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9740 ฟรังก์สวิส