ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


ช้ำในหนักมาก SET หลุด 1,อ00 จุด อีกครั้ง หากบ่ายนี้ไหลลงหลุด 1,484 จุด จะเกิดสัญญาณลบทางเทคนิคขั้นรุนแรง กลยุทธ์ระยะสั้นยังคงชื่นชอบเล่นกับหุ้นส่งออก อิงกับเทรนเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ ชอบ HANA, KCE, SVI, VNG และ TUF 

 

มุมมองและการวิเคราะห์

– ประเด็นที่ฝ่ายวิจัยให้ความสำคัญในปัจจจุบันคือเรื่องผลประกอบการปี 2558 แม้ว่ากำไรตลาดในงวด 1Q58 จะสามารถแตะ 2 แสนล้านบาทได้ แต่ยังต้องตามดูในเรื่องของคุรภาพกำไร หรือ Earning Quality ซึ่งในงวด 1Q58 หลายๆบริษัท ที่มีกำไรปรับเพิ่มขึ้น qoq หรือ yoy บางบริษัทกำไรที่เพิ่มขึ้นจะมาจากกำไรรายการพิเศษซึ่งพวกนี้จะเป็นพวก One Time Gain ภาพของกำไรจึงอาจไม่ต่อเนื่องในงวดที่เหลือของปี ขณะที่บริษัทอื่นๆที่ไม่มีกำไรจากรายการ ส่วนใหญ่จะมีทิศทางกำไรไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าหลังจากเสร็จสิ้นการรายงายงบ ฝ่ายวิจัยจะต้องมีการปรับลดประมาณการณ์กำไรตลาดลง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นแค่ฝ่ายวิจัย ASPS เท่านั้นที่จะปรับลด แต่เชื่อว่าหลายๆสำนักวิจัยก็จะปรับลดประมาณการณ์กำไรตลาดลงเช่นเดียวกัน คาดว่ากระแสการปรับลดประมาณการณ์ดังกล่าวจะเป็นตัวกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลังการรายงานงบงวด 1Q58 เสร็จสิ้น 15 พ.ค.58 เป็นต้นไป 

– เงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่ 33.76 บาทต่อดอลลาร์แล้ว คาดว่าอีกไม่นานน่าจะอ่อนจนไปถึงเป้าหมาย 34 บาทต่อดอลลาร์ จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินบาทและ SET lndex ข้อมูล 100 วันย้อนหลังจะพบว่ามีทิศทางสัมพันธ์กันไปในทางตรงกันข้ามกันด้วยค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ (Correlation) ติดลบสูงถึง -0.73 ซึ่งเมื่อทำการทดสอบด้วยสมการถดถอย จะพบว่าหากค่าเงินบาทไปเคลื่อนไหวไปถึง 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ SET lndex จะเคลื่อนไหวลงมาอยู่บริเวณ 1,480 จุด 

– จาก ASP Market Talks วันนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ถือว่าส่งผลดีในเรื่องของรายได้จากการส่งออก และยิ่งผู้ประกอบการที่มีต้นทุนเป็นเงินบาทในสัดส่วนที่สูงกว่ารายได้ในรูปเงินตราต่างประเทศ ยิ่งจะเป็นผลดีต่อประสิทธิภาพการทำกำไร จึงยังคงชื่นชอบหุ้นส่งออก ได้แก่

– กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  พบว่า ทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่า จะส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิกลุ่มฯ ในปี 2558 ปรับเพิ่มขึ้น 5.4% จากเดิม หุ้นเด่นคือ HANA (FV@B48) DELTA (FV@B78) บาทที่อ่อนค่าจะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.7% และ KCE (FV@B60)  คาดจะ-ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.5%) 

– กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ส่งออก Particle  board ได้แก่ VNG (FV@B 10.25) วานนี้รายงานผลกำไรงวด 1Q58 ดีตามคาด คาดว่าผลประกอบการ 2Q58 และ 3Q58 จะเติบโตอย่างมาก เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season และราคาปัจจุบันมีค่า Expected PER เพียง -9.6 เท่า มี dividend yield 4.18% และยังมี upside กว่า 30%   

– ส่งออกอาหาร ที่คาดว่าสดใสในงวด 1Q58 คือ TUF (FV@B 26) โดยนักวิเคราะห์ ASP ประเมินว่ากำไรสุทธิงวด 1Q58 จะเติบโตถึง 61.5% qoq และ 18.7% yoy จากการรับรู้รายได้ของ 2 แห่งที่ซื้อกิจการทั้ง 100% ตั้งแต่ปลายปี 2557 (MerAlliance และ King Oscar) อย่างไรก็ตามตลอดปี 2558 คาดการณ์กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเพียง 16.7% จากปี 2557 จากการผลของการบันทึกค่าใช้จ่ายในการซื้อ Bumble Bee แต่ปี 2559 คาดว่าจะกลับมาเติบโต ถึง 65.8% yoy  จากการรับรู้รายได้ Bumble Bee เข้ามาได้เต็มที่ และคาดว่าราคาปัจจุบันสะท้อนข่าวร้ายจากการที่ EU ให้ใบเหลืองสินค้าประมงของไทย

 

กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic  :  ยังคงอิงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เลือก HANA, SVl, KCE, VNG และ TUF

– หุ้นเด่นเดือน พ.ค.58 AAV BEAUTY BJCHl lCHl SYNTEC THCOM และ WORK 

– หุ้นปันผลเด่นที่จะเป็นทางเลือกยามดอกเบี้ยขาลง ASK BTS lNTUCH 

– หุ้นผลประกอบการฟื้นตัว มองพลังงานที่ยัง Laggards PTTEP, PTTGC 

– หุ้น PE ต่ำ และมี Story เด่น STPl, BJCHl 

– Portfolio Update : ASK, SVl, SYNTEC, BJCHl, PTTEP

Back to top button