MILL คาดโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างเหล็กในพม่าเดินเครื่องได้ต.ค. นี้ รับรู้รายได้ทันที

MILL คาดโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างเหล็กรูปพรรณในพม่าสามารถเดินเครื่องได้ภายในเดือน ต.ค.58 โดยจะสามารถรับรู้รายได้ทันที


นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างเหล็กรูปพรรณที่ประเทศพม่าจะเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.58 และสามารถรับรู้รายได้ทันทีหลังจากที่บริษัทได้ทำพิธีตอกเสาเข็มก่อสร้างโรงงานไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยโรงงานดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินการกิจการของบริษัท มิลล์คอนเอนจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรูปพรรณประเภทเหล็กท่อ ร่วมถือหุ้นโดย บริษัท มิลล์คอนสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL จำนวน 45% และบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 45% ที่เหลือ 10% ถือหุ้นโดยพันธมิตรพม่า ใช้เงินลงทุนประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐมีกำลังการผลิต 64,397 ตันต่อปี ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวได้สิทธิประโยชน์การลงทุนจากรัฐบาลพม่าโดยได้รับการยกเว้นภาษี 7 ปี

ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 58 ประเทศพม่าถือว่าเป็นประเทศที่มีการเติบโตภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างสูงทั้งนี้จากการลงทุนของภาครัฐบาลพม่าในการสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการลงทุนจากนานาประเทศ ซี่งบริษัทมีเป้าหมายจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กในกลุ่มวัสดุก่อสร้างอย่างครบวงจรเป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดทางให้บริษัทที่เป็นธุรกิจเหล็กสัญชาติไทยที่ได้เข้าไปนำร่องอุตสาหกรรรมการก่อสร้างในประเทศพม่า

สำหรับการเข้าไปลงทุนในพม่าครั้งนี้บริษัทเห็นว่าโอกาสการเติบโตของพม่าโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศรวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งล้วนแต่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทแถมเรายังได้รับการยกเว้นภาษี 7 ปีซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและเติบโตสูงในอนาคต

ด้านนายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่พม่าได้มีการปฏิรูปประเทศทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตสูงและติดอันดับชั้นนำของอาเซียนทุกประเทศว่าภายใน 3-5 ปีนี้ เศรษฐกิจของพม่าจะมีอัตราการเติบโตกว่า 7.8% ถือเป็นระดับที่เข้มแข็งมาก

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยพยายามสนับสนุน เพื่อผลักดันนักลงทุนที่มีความสามารถ และทำธุรกิจอย่างสร้างสรรค์จะได้มีโอกาสเข้ามาลงทุนในพม่าเหมือนกรณีของบริษัท มิลล์คอน เอนจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูต พร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือนักลงทุนที่ต้องการข้อมูลและเข้ามาทำธุรกิจในพม่าทุก ๆ ด้าน

สำหรับความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสนใจคือเรื่องของการสร้างความเข้าใจสังคมและวัฒนธรรมของพม่า รวมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบต่างๆที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแรงทัดเทียมประเทศอื่นๆในอาเซียน

 

 

 

Back to top button