WPH จับมือ สปสช. รับตรวจโรคด้วยเครื่องมือแพทย์ หวังขยายฐานลูกค้า

WPH จับมือ สปสช. รับตรวจโรคด้วยเครื่องมือแพทย์ MRI, CT SCAN, MAMMOGRAM รองรับผู้ใช้สิทธิ หวังขยายฐานลูกค้า


นายเชน เหล่าสุนทร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการเงิน บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญากับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้บริการรองรับผู้ใช้สิทธิ สปสช. ที่นำส่งมาตรวจโรคด้วยเครื่องมือทางการแพทย์

โดยประกอบด้วย เครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ซึ่งมีความเข้มสนามแม่เหล็ก 1.5 TESLA , เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT SCAN 192 slice และเครื่องเอกซเรย์เต้านม MAMMOGRAM โดยค่าบริการตรวจดังกล่าวสามารถเบิกจ่ายกับทาง สปสช. ได้ทั้งหมด

ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพจำนวนกว่า 48 ล้านคน ให้บริการคุ้มครองบุคคลที่เป็นคนไทยมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่ไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการข้าราชการ หรือสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิสวัสดิการรัฐวิสาหกิจหรือสิทธิอื่น ๆ จากรัฐ เพื่อให้ได้รับบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง

“สปสช. เล็งเห็นถึงศักยภาพของโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง ซึ่งมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครบวงจร พร้อมทีมรังสีแพทย์ และนักรังสีเทคนิคที่มีประสบการณ์ความชำนาญ ยกตัวอย่างเช่น เครื่อง MRI ของบริษัท ความเข้มสนามแม่เหล็ก 1.5 TESLA ไม่ต้องใช้รังสีเอกซเรย์ ให้ภาพที่คมชัด เห็นความผิดปกติในตำแหน่งที่ตรวจ ช่วยให้การวินิจฉัยของแพทย์แม่นยำขึ้น นำไปสู่การรักษาได้ทันท่วงทีด้วยมาตรฐานระดับสากล  นอกจากนี้ยังสอดคล้องไปตามแผนการขยายฐานลูกค้าของบริษัท เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องอีกด้วย” นายเชน กล่าว

ทั้งนี้ นายเชน ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทยังมีแผนกลยุทธ์ในการขยายฐานรายได้ช่องทางอื่น ๆ โดยการขยายขอบเขตการให้บริการ อาทิ เพิ่มพื้นที่บริการโดยการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มีกำลังซื้อ และยังเป็นการเพิ่มช่องทางสำหรับประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ ที่ให้ความไว้วางใจในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง อยู่เป็นประจำ ซึ่งหากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3/61 ก็จะพร้อมเปิดให้บริการทันที

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง ได้เพิ่มทีมแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมสมองและระบบประสาท และอายุรกรรมระบบทางเดินอาหารและตับ เพื่อรองรับการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยต่อวันได้มากขึ้น  ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคที่มีคนป่วยติด 3 อันดับแรกของจังหวัดตรังด้วย

อีกทั้ง ได้เปิดแผนกเฉพาะทางให้บริการ 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผู้รับบริการให้ได้ทันท่วงที ซึ่งเชื่อมั่นว่าจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าให้เป็นไปตามแผนงาน และเสริมสร้างการเติบโตของรายได้ให้มั่งคงแข็งแกร่ง  สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป

Back to top button