“เอเซียพลัส” เคาะหนักเป้าใหม่ IVL รับซื้อกิจการในสหรัฐฯ ลุ้นทะยานแตะ 59 บาท
"เอเซียพลัส" เคาะหนักเป้าใหม่ IVL รับซื้อกิจการในสหรัฐฯ ลุ้นทะยานแตะ 59 บาท โดย ณ เวลา 12.10 น. ราคาอยู่ที่ 45.00 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.69% สูงสุดที่ 45.25 บาท ต่ำสุดที่ 44.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 397.84 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.59%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ได้เข้าซื้อกิจการ DuPont Teijin ซึ่งเป็นกิจการผลิตฟิล์มโพลีเอสเตอร์ Biaxially-Oriented Polyethylene (BOPET) และ Polyethylene Naphthalate (PEN) ชั้นนำของโลก
โดยกิจการ DuPont Teijin ประกอบด้วยโรงผลิตทั้งหมด 8 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีศูนย์กลางด้านนวัตกรรมระดับโลกอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีกำลังการผลิตฟิล์มและวัสดุ โพลีเมอร์ จำนวนรวม 277,000 ตัน/ปี โดยคาดว่าการซื้อกิจการดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 60 หรือช่วงต้นปี 61
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า IVL ประกาศเข้าซื้อกิจการสัดส่วน 100% ใน DuPont Teijin Films (DTF) สัญชาติอเมริกัน ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตฟิล์มโพลีเอสเตอร์ BOPET และ PEN ชั้นนำของโลก ซึ่งอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA สำหรับใช้งานฉพาะด้านในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
โดยปัจจุบันมีโรงงานทั้งหมด 8 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีกำลังการผลิตฟิล์มและโพลีเมอร์รวม 2.77 แสนตันต่อปี อย่างไรก็ตามสำหรับในส่วนของแหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และเงินที่ได้จากการใช้สิทธิ IVL-W1
ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ IVL ที่จะมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (HVA) จากปัจจุบันอยู่ที่ 22% เป็น 25% ในอนาคต ซึ่งการเข้าซื้อกิจการ DuPont Teijin Films (DTF)
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ถือเป็นการทำ M&A ธุรกิจทางด้าน HVA ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงครึ่งหลังปี 60 ต่อจากการเข้าซื้อกิจการ DuraFiber ในประเทศเม็กซิโก และ DuraFiber Longlaville ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจ HVA ของ IVL
โดยฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2561 ขึ้นจากเดิม สะท้อนการเข้าซื้อกิจการ 1) DuPont Teijin Films (DTF) ซึ่งถือเป็นกิจการที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ กำลังการผลิตรวมสูงถึง 2.77 แสนตันต่อปี ภายใต้สมมติฐานคาดมูลค่าเงินลงทุนจะอยู่ราว 400 ล้านเหรียญฯ หรือราว 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์รายได้ต่อปีจะอยู่ราว 1.7-1.8 หมื่นล้านบาทต่อปี
2) DuraFiber ในประเทศเม็กซิโก กำลังการผลิต 3.75 หมื่นตันต่อปี ซึ่งเบื้องต้นคาดกำไรจะอยู่ราว 400-600 ล้านบาทต่อปี และ 3) DuraFiber Longlaville ประเทศฝรั่งเศส ขนาดกิจการไม่ใหญ่เช่นกัน กำลังการผลิต 3.5 หมื่นตันต่อปี เบื้องต้นคาดกำไรจะอยู่ราว 300-500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งภายใต้ประมาณการใหม่ส่งผลให้กำไรใหม่ในปี 2561-2562 เพิ่มขึ้น 10.6% และ 11.8% จากเดิม มาอยู่ที่ 1.8 และ 1.9 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
โดยคงคำแนะนำซื้อ ภายใต้ประมาณการใหม่ มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2561 อิง DCF เท่ากับ 59 บาทต่อหุ้น (เดิม 55 บาท)และเลือกเป็น top pick ของกลุ่มฯ จากแนวโน้มกำไรทำ new high โดดเด่นและต่อเนื่อง แม้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะไม่โดดเด่น แต่อยากให้น้ำหนักไปที่แผนการขยายการลงทุนของ IVL ที่มีอย่างต่อเนื่องมากกว่า เพราะจะช่วยเพิ่มมูลค่าระยะยาวได้อย่างมีนัยฯ
ด้านราคาหุ้น IVL ณ เวลา 12.10 น. ราคาอยู่ที่ 45.00 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.69% สูงสุดที่ 45.25 บาท ต่ำสุดที่ 44.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 397.84 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.59%