สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ต.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นเงินเฟ้อ โดยเจ้าหน้าที่หลายคนมองว่าเฟดควรประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวได้ช่วยลดกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และซิตี้กรุ๊ป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,872.89 จุด เพิ่มขึ้น 42.21 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,555.24 จุด เพิ่มขึ้น 4.60 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,603.55 จุด เพิ่มขึ้น 16.30 จุด หรือ +0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสเปน หลังจากนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ไม่มีความชัดเจนในการประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ขณะที่นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายปุกเดมองต์ ที่ต้องการเจรจากับรัฐบาลสเปนเกี่ยวกับการประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญา
ดัชนี European Stoxx Europe 600 ปิดที่ระดับ 390.15 จุด โดยขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดของวันอังคารที่ 390.16 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,970.68 จุด เพิ่มขึ้น 21.43 จุด หรือ +0.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,362.41 จุด ลดลง 1.24 จุด หรือ -0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.81 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.06%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) จากปัจจัยความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในกระบวนการเจรจา Brexit ระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับสหภาพยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.06% ปิดที่ 7,533.81 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากรายงานของโอเปกระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 51.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 56.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,288.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.4 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 17.133 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 933.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 9958.95 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นเงินเฟ้อ โดยกรรมการเฟดหลายคนมองว่า เฟดควรประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1856 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1807 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.3218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3204 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7785 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7783 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.35 เยน จากระดับ 112.31 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9728 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9751 ฟรังก์สวิส