สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ต.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮ เพราะได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และอเมริกัน แอร์ไลน์ พร้อมกับจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งเตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 ในสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,956.96 จุด เพิ่มขึ้น 85.24 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,557.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,624.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด หรือ +0.28%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสเปน หลังจากรัฐบาลสเปนขีดเส้นตายให้ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาแสดงท่าทีที่ชัดเจนภายในวันพฤหัสบดีนี้ว่า เขาได้ประกาศนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนหรือไม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงปิดที่ระดับ 391.41 จุด จากระดับของวันศุกร์ที่ 391.55 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,526.97 จุด ลดลง 8.47 จุด, -0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 13,003.70 จุด เพิ่มขึ้น 11.83 จุด, +0.09% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,362.88 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด, +0.21%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ด้วยแรงฉุดจากหุ้นคอนวาเทคที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์รายใหญ่แห่งนี้ ได้หั่นคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีนี้ สืบเนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ย่ำแย่จากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนหลายลูกที่พัดถล่มหลายประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 8.47 จุด หรือ -0.11% ปิดที่ 7,526.97 จุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นทำนิวไฮของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ระดับ 1,303.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.2 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 17.369 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 942.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 976.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กองกำลังทหารของอิรักได้เข้ายึดเมืองเคอร์คุกจากกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 51.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 57.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีทิศทางการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1809 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1819 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3260 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3291 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7859 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7885 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.89 เยน จากระดับ 111.87 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9749 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9744 ฟรังก์สวิส