BCPG พุ่งเกือบ 5% ลุ้นกำไร Q3 โตเด่นหลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพในอินโดฯ
BCPG พุ่งเกือบ 5% ลุ้นกำไร Q3 โตเด่นหลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพในอินโดฯ ล่าสุด ณ เวลา 11.42 น. ราคาอยู่ที่ 22.60 บาท บวก 1 บาท หรือ 4.63% สูงสุดที่ 22.80 บาท ต่ำสุดที่ 21.60 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.04 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ณ เวลา 11.42 น. ราคาอยู่ที่ 22.60 บาท บวก 1 บาท หรือ 4.63% สูงสุดที่ 22.80 บาท ต่ำสุดที่ 21.60 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.04 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.47%
โดย บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “อยู่ระหว่างการปรับประมาณการ” BCPG โดยมองว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซีย (กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 158MW) จะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการโดย Net equity PPA/สัญญา เพิ่มขึ้นเป็น 332MW จากเดิม ที่ 174MW ในช่วงไตรมาส 2/60
ขณะที่ Ft (Bt/kwh) เพิ่มขึ้นจาก -0.39 บาท เป็น -0.32 บาทในช่วงไตรมาส 3/60 และ -0.26 บาทในช่วงไตรมาส 4/60 เป็นปัจจัยบวกต่อโซลาฟาร์มขนาด 118MW
ทั้งนี้คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 2.3% จากไตรมาสก่อนเป็น 910 ล้านบาท จากช่วงเวลาแสงแดดที่มากกว่าคาดที่ญี่ปุ่นชดเชยฤดูฝนในไทย ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคงที่ 72% จากไตรมาสก่อน
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกเพิ่มขึ้นจาก 43 ล้านบาท เป็น 578 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 3/60 และในช่วงไตรมาส 2/60 BCPG มีการรับรู้รายได้จากพลังงานลมในฟิลิปปินส์ (รับรู้กำไร 6 เดือนในไตรมาส 2/60 และคาดว่าจะรับรู้กำไร 3 เดือนในช่วงไตรมาส 3/60)และจากการใช้เงินกู้เพิ่มขึ้น 5 พันล้านบาท (จากทั้งหมด 1.2 หมื่นล้านบาท) ทำให้คาดว่าดอกเบี้ยจ่ายจะเพิ่มขึ้นจาก 84 ล้านบาท เป็น 259 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 3/60 ด้าน SG&A ต่อยอดขายลดลงจากไตรมาสก่อนQ เป็น 20.3%
ทั้งนี้กำไรจากการดำเนินงานหลักเพิ่มขึ้น 99% จากปีก่อน และ 85% จากไตรมาสก่อนเป็น 808 ล้านบาทในไตรมาส 3/60 และคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติในไตรมส 4/60 ที่ 440-490 ล้านบาท (รวมกำไรของโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพ 3 เดือน)
ทั้งนี้ราคาหุ้นของ BCPG เพิ่มขึ้นกว่า 31% ในเดือนที่ผ่านมามากกว่ามูลค่าที่เหมาะสมของเราที่ 17 บาท (DCF) คิดเป็น PER ที่ 13.8 เท่าสำหรับปี 61 ณ ราคาที่ 20 บาท คิดเป็น PER ที่ 16.2 เท่าสำหรับปี 61 และ 15.2 เท่าสำหรับปี 62 โดยเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “อยู่ระหว่างการปรับประมาณการ” เนื่องจากมีอัพไซด์ในปี 63 จากโครงการในญี่ปุ่น และ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคาด และยอดการเข้าซื้อของ NVDR ที่สูงในเดือน ก.ย. แสดงถึงหุ้นได้รับความนิยมจากคนต่างชาติ
ขณะเดียวกัน บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำหุ้น บมจ.บีซีพีจี (BCPG) คาดว่า สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซียเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 3/60 คาดหวังเป็นหุ้นที่ผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังดีอย่างโดดเด่น