SET ปิดบวก 2.71 จุด รับสศค.อัพเป้า GDP-คาดหวังเม็ดเงินกองทุน LTF-RMF
SET ปิดบวก 2.71 จุด รับสศค.อัพเป้า GDP-คาดหวังเม็ดเงินกองทุน LTF-RMF โดยดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,721.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด หรือ 0.16% มูลค่าซื้อขาย 5.56 หมื่นลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,721.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด หรือ 0.16% มูลค่าซื้อขาย 5.56 หมื่นลบ.
10 หุ้นดันดัชนีวันนี้
ด้าน นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน (CNS) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นลักษณะแกว่ง Sideway up ตอบรับสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้
รวมทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย GDP การเกษตรในปีนี้ ถ้ามองเฉพาะทิศทาง GDP ของภาคการเกษตรจะเห็นว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น เป็นตัวบ่งชี้ว่าสัญญาณการบริโภคกลุ่มฐานรากจะฟื้นตัวดีขึ้นตาม ทำให้มีแรงหนุนเชิงบวกเข้ามาต่อเนื่อง
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เป็นลักษณะของการแกว่งตัวบวก-ลบสลับกัน ซึ่งปัจจัยหนุนเชิงบวกมาจากค่าเงินเอเชียโดยรวมในเชิงเปรียบเทียบแข็งค่าขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนลงเป็นผลจากเรื่องฉบับร่างนโยบายการปฎิรูปภาษีที่สหรัฐเปิดเผยวานนี้ ทำให้เห็นแรงขายทำกำไรในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯออกมา อย่างไรก็ตามมองว่า แนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐฯในระยะกลาง-ยาว ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) นายกรภัทร เปิดเผยว่า ตลาดฯน่าจะยังมีลักษณะ Sideway up เช่นเดียวกันกับวันนี้ ซึ่งจะมีการแกว่งตัวปรับฐานบ้างในระหว่างวัน แต่โดยรวมจะค่อย ๆ สร้างฐานขึ้นในแดนบวก
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตาม การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะประชุมในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. และทราบผลในวันที่ 2 พ.ย. นี้ รวมทั้งติดตามผลประกอบการไตรมาสที่ 3/60 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา
พร้อมให้แนวต้าน 1,730-1,735 จุด ส่วนแนวรับ 1,715-1,717 จุด
ขณะเดียวกัน น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ผันผวนค่อนข้างมาก มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ยังดีเมื่อดัชนีฯปรับตัวลงก็ยังมีแรงดีดตัวขึ้นมาได้ โดยมองว่าเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ยังช่วยประคองตลาดฯได้ ซึ่งภาพโดยรวมของตลาดฯยังไม่ได้แย่ เพียงแต่มี take profit ระหว่างทางหลังจากที่ขึ้นไปมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงบ่ายนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งดีกว่าช่วงเช้าที่จะติดลบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน ซึ่งต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ พร้อมให้จับตาใครจะมาเป็นประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบชัดในปลายสัปดาห์นี้
ส่วนบ้านเราก็คงจะมีการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ซึ่งหลายบริษัทต่างทยอยประกาศผลประกอบการออกมาในช่วงนี้ นอกจากนี้ก็ให้ติดตามผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,780.25 ล้านบาท ปิดที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,962.50 ล้านบาท ปิดที่ 220 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,875.72 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
TOA มูลค่าการซื้อขาย 1,251.67 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
TTCL มูลค่าการซื้อขาย 1,209.39 ล้านบาท ปิดที่ 20.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
ตลาดหุ้นเอเชีย