หุ้นยุโรปปิดวานนี้ปรับลงวิตกจีดีพีเยอรมนีชะลอตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นเยอรมนี หลังจากเยอรมนีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ชะลอตัวลงในไตรมาสแรก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.16% ปิดเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) ที่ 395.46 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,961.86 จุด ลดลง 12.79 จุด หรือ -0.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,351.46 จุด ร่วงลง 120.95 จุด หรือ -1.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,949.63 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นเยอรมนี โดยดัชนี DAX ดิ่งลงไปกว่า 120 จุดหลังจากสำนักงานสถิติกลางของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นประจำไตรมาส 1/2558 ขยายตัว 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจาก 0.7% ในไตรมาสก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัว 0.5% ในช่วงสามเดือนแรกปีนี้
อย่างไรก็ตาม GDP ของกลุ่มประเทศยูโรโซนขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 1/2558 หลังจากที่ขยายตัว 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจฝรั่งเศสและอิตาลีที่กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในช่วงสามเดือนแรกปีนี้ ซึ่งช่วยชดเชยเศรษฐกิจเยอรมนีที่ขยายตัวช้าลง
หุ้นคอมพาส กรุ๊ป ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่หุ้นยูบีเอสกรุ๊ป ดิ่งลง 1.6% อย่างไรก็ตาม หุ้นมอนดิ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระดาษลูกฟูกและบรรจุภัณฑ์ด้านอุตสาหกรรม พุ่งขึ้น 8.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ส่วนเอสเอบีมิลเลอร์ ปรับขึ้น 2.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด