วิตกการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐกดดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่อง

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้สกัดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในเร็วๆ นี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรวานนี้ (14 พ.ค.) แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1399 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1356 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5770 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5744 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.22 เยน เทียบกับระดับ 119.13 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9129 ฟรังก์ จาก 0.9168 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8069 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8101 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวย่ำแย่ ท่ามกลางแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาที่ออกมาในทิศทางที่แตกต่างกัน เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลงในเดือนเม.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ และเฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนี PPI สำหรับอุปสงค์ขั้นสุดท้ายลดลง 0.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย.

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 9 พ.ค. ปรับตัวลง 1,000 ราย แตะ 264,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ด้านนักวิเคราะห์บางรายมองว่า เงินเฟ้อที่ระดับต่ำยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันเฟดในการพิจารณาช่วงเวลาที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

Back to top button