สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ย. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ อันเนื่องมาจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,557.23 จุด เพิ่มขึ้น 8.81 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,590.64 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,767.78 จุด ลดลง 18.65 จุด หรือ -0.27%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา รวมถึงเอ.พี.โมลเลอร์-เมอส์ก ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่ของเดนมาร์ก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสเปนอย่างใกล้ชิด หลังจากสภาหอการค้าสเปนได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ในปีนี้และปีหน้า อันเนื่องมาจากวิกฤตแคว้นกาตาลุญญา
ดัชนี The Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 394.65 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,379.27 จุด ลดลง 89.52 จุด หรือ -0.66% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,480.64 จุด ลดลง 26.61 จุด หรือ -0.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,513.11 จุด ลดลง 49.17 จุด หรือ -0.65%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ด้วยแรงฉุดของหุ้นกลุ่มค้าปลีกซึ่งร่วงลงจากแรงกดดันของตัวเลขค้าปลีกที่อ่อนแอของอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 49.17 จุด หรือ -0.65% ปิดที่ 7,513.11 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ในประเทศ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนลบ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่านั้น ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,275.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 29.5 เซนต์ หรือ 1.71% ปิดที่ 16.94 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.7 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 925.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 994.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดได้ปิดทำการลงแล้ว
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1583 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1612 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3155 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3165 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7681 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 113.91 ดอลลาร์ จากระดับ 113.80 ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0002 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9979 ฟรังก์สวิส