สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮในวันเดียวกันเป็นครั้งที่ 27 ของปีนี้ หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทเทค-ทู อินเตอร์แอ็คทีฟ ซอฟต์แวร์ ผู้ผลิตวีดิโอเกมรายใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,563.36 จุด เพิ่มขึ้น 6.13 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,594.38 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,789.12 จุด เพิ่มขึ้น 21.34 จุด หรือ +0.32%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด โดยหุ้นเครดิต อากริโค ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส ดิ่งลงกว่า 3% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.05% ปิดที่ 394.45 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,471.43 จุด ลดลง 9.21 จุด หรือ -0.17% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,382.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด หรือ +0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,529.72 จุด เพิ่มขึ้น 16.61 จุด หรือ +0.22%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่อย่างมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.61 จุด หรือ +0.22% ปิดที่ 7,529.72 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 56.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 63.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,283.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 19.8 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 17.138 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 12.6 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 937.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 21.70 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,015.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ หลังจากที่สื่อสหรัฐรายงานว่า บรรดาแกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐกำลังพิจารณาแผนเลื่อนเวลาบังคับใช้กฎหมายปฏิรูประบบภาษีออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากพวกเขามีความวิตกว่า การที่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งจากเดโมแครตในศึกเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียและนิวเจอร์ซีย์นั้น อาจทำให้กระบวนการปฏิรูประบบภาษีมีความซับซ้อนมากขึ้น

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1592 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1583 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3107 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3155 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7677 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7639 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.78 เยน จากระดับ 113.91 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0004 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0002 ฟรังก์สวิส

Back to top button