ตลาดหุ้นเอเชียร่วงยกแผงหลังดาวโจนส์ปิดลบ-ราคาน้ำมันดิบดิ่งเกือบ 2%
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงยกแผงหลังดาวโจนส์ปิดลบ-ราคาน้ำมันดิบดิ่งเกือบ 2%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเมื่อคืน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงเกือบ 2% นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,250.98 จุด ลดลง 129.03 จุด, -0.58% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,416.21 จุด ลดลง 13.34 จุด, -0.39% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 29,026.11 จุด ลดลง 126.01 จุด, -0.43% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,662.08 จุด ลดลง 25.10 จุด, -0.23% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,525.60 จุด ลดลง 1.04 จุด, -0.04% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,390.96 จุด ลดลง 8.13 จุด, -0.24% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,733.90 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด, +0.02%
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเกือบ 2% เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันราว 100,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน และ 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ตามลำดับ
นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า การบังคับกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 นอกจากนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภายังมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในสัปดาห์นี้