“กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” เคาะราคา IPO ที่ 3.50 บ./หุ้น เปิดจอง 22-24 พ.ย.นี้

“กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI เคาะราคา IPO จำนวน 100 ล้านหุ้นที่ 3.50 บ./หุ้น เปิดจอง 22-24 พ.ย.นี้ โดยมี บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นในช่วงวันที่ 22-24 พ.ย.และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยมี บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ปัจจุบัน บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 250 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 100 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 16.67 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ

ด้านนายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPI เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมากว่า 47 ปี โดยเริ่มต้นเมื่อปี 13 ได้เปิดตัวนิตยสารกรังด์ปรีซ์เป็นฉบับแรก หลังจากนั้นในปี 22 ได้เริ่มจัดงานมหกรรมรถยนต์ครั้งที่ 1 (ปัจจุบันคืองาน Bangkok International Motor Show) ในปี 52 ได้ริเริ่มจัดงานมหกรรมยานยนต์รถมือสองและยนตรกรรมนำเข้า (ปัจจุบันคืองาน Bangkok Used Car Show) และเริ่มจัดทำเว็บไซต์หลักใหม่ของบริษัท (www.grandpix.co.th) เพื่อเป็นสื่อหลักและศูนย์กลางนำเสนอข่าวและสาระด้านยานยนต์

“เรามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำการสร้างนวัตกรรมในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร ความบันเทิงและการจัดกิจกรรมอย่างครบวงจรสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และไลฟ์สไตล์ โดยมีความมั่นใจในศักยภาพธุรกิจ ถึงแม้ในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจจะมีความท้าทายมากขึ้น แต่เราไม่เคยหยุดนิ่งที่หาโอกาสสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง” นายปราจิน กล่าว

ส่วนนายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการตลาดและการขาย GPI เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 83% ของรายได้จากการขายและบริการในปี 59 ปัจจุบันบริษัทมีการจัดงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการจัดแสดงยานยนต์ 2 งานต่อปี ได้แก่

1.งาน Bangkok International Motor Show ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมด้านยานยนต์ รถต้นแบบ ยนตรกรรม รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ 2.งาน Bangkok Used Car Show ซึ่งเป็นงานแสดงและจำหน่ายรถยนต์หรูมือสองและรถยนต์มือสองคุณภาพดีจากผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองที่มีชื่อเสียง โดยคาดว่าจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มฟื้นตัวจะส่งผลดีต่อการจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์

สำหรับธุรกิจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เป็นของบริษัท อาทิ การจัดแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ (Motor Sport) การแข่งขันรถยนต์ควอเตอร์ไมล์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตามความต้องการของลูกค้า อาทิ งานทดสอบสมรรถนยานยนต์ชั้นนำในประเทศไทย กิจกรรมแรลลี่รถยนต์และคาราวาน และการจัดแข่งขันเครื่องบินภายใต้ชื่อ ‘Air Race 1’ ให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเป็นการแข่งขันเครื่องบินครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียที่มีเครื่องบินระดับโลกเข้าแข่งขัน

ทั้งนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายขยายการจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ในต่างประเทศ เช่น ประเทศในแถบอาเซียน โดยบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) กับผู้ประกอบการในประเทศเมียนมา เพื่อที่จะเข้าไปบริหารจัดการงานมอเตอร์โชว์ในช่วงต้นปี 61 ก่อนที่จะพิจารณาเข้าร่วมลงทุนต่อไป

นอกจากนี้จะขยายการจัดงานแสดงสินค้าไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยได้ริเริ่มจัดงานมหกรรมอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นแสดงของใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่ผ่านมา และเตรียมจัดงานต่อเนื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้ ขณะเดียวกัน จะรุกขยายการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการผลิตสื่อ GPI เปิดเผยว่า สำหรับธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อรูปแบบใหม่ มีรายได้จากการผลิตและจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ เช่น นิตยสารกรังด์ปรีซ์ นิตยสารออฟโรด นิตยสารมอเตอร์ไซด์ และนิตยสารเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ อาทิ นิตยสารการาจไลฟ์ และได้รุกเข้าสู่ธุรกิจสื่อรูปแบบใหม่ อาทิ นิตยสารในรูปแบบดิจิทัล สื่ออินเทอร์เน็ต (Website) และสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น www.grandprix.co.th เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล

ขณะเดียวกัน บริษัทยังเป็นผู้รับจ้างผลิตและจัดส่งสิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆ อาทิ หนังสือ นิตยสาร วารสาร แค็ตตาล็อก แผ่นพับ ใบปลิว โบชัวร์ ปฏิทินและสิ่งพิมพ์อื่นๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความครบวงจรให้กับการดำเนินธุรกิจด้านการผลิตสื่อและให้บริการแก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายที่จะซื้อเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ที่สามารถพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ กระดาษห่อสินค้า ป้ายโฆษณา และงานพิมพ์บนกระดาษ อาทิ กระดาษอาร์ตเทียม กระดาษ LMC กระดาษไข ฯลฯ เพื่อรองรับงานพิมพ์และวัสดุที่ใช้พิมพ์ที่หลากหลายขึ้น ขยายธุรกิจการรับจ้างพิมพ์ไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ จากเดิมที่เน้นการรับจ้างพิมพ์นิตยสาร

“เราจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาขยายในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการรุกออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งเราเริ่มจากการบุกไปจัดงานมอเตอร์โชว์ในประเทศเมียนมา รวมไปถึงการซื้อเครื่องพิมพ์ใหม่ และใช่เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ” นายพีระพงศ์ กล่าว

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 60) บริษัทมีรายได้รวม 631.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 624.16 ล้านบาท ซึ่งมาจากกลุ่มธุรกิจรับจ้างพิมพ์ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่กำไรสุทธิ 186.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 172.68 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลง นอกจากนี้ ยังมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนต่ำเพียง 0.05 เท่า (ณ สิ้นไตรมาส 2/60) สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

อนึ่ง ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้ 1.กลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เป็นธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า (Exhibition) เช่น งาน Bangkok International Motor Show และงาน Bangkok Used Car Show รวมถึง ธุรกิจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 2.กลุ่มธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อรูปแบบใหม่ เป็นธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ และธุรกิจสื่อรูปแบบใหม่ในรูปแบบดิจิตอล และ 3.กลุ่มธุรกิจรับจ้างพิมพ์

Back to top button